รีวิว Honda Click160 จ่าฝูง Sport AT แรง เบาคล่องตัว
รีวิว Honda Click160 จัดเต็มฟูล รีวิวอีกครั้งหลังจากที่ได้มีโอกาสทำ 1st Impression ไปแล้วตั้งแต่งาน BIMS2022 ซึ่งก็อย่างที่ทราบ ได้ขี่แค่ในลานสั้นๆ พอได้ใจความวันนี้ ได้ลองเต็มๆ บนถนน ซึ่งผมจะขอมาเก็บตกประเด็นต่าง ที่ขาดไปกันครับ
ชุดแฟริ่งด้านหน้า ดูขนาดใหญ่โตขึ้น พร้อมปรับรูปทรงใหม่มีมุมเหลี่ยมสันมากขึ้น ชุดไฟหน้า LED ดูคล้าย CBR250RR
โดยไฟเลี้ยว LED จะอยู่ด้านบน ส่วนไฟ DRL จะเป็นเส้นสายที่เชื่อมต่อกันมาจากด้านบน จวบจนด้านล่าง
ไฟท้าย LED รูปทรงใหม่ ส่วนไฟเลี้ยว LED ยังเป็นรูปแบบยอดนิยมที่พบกันในหลายรุ่น โลโก้ Click160 เป็นสีทองในรุ่น ABS
ลิ้นชักหน้าซ้าย ลึกพอประมาณมาพร้อมกับช่อง USB ส่วนลิ้นชักขวาเป็นช่องเปิดรูปทรงตัว L วางของได้ พอประมาณ แต่ถ้าขี่รถไม่แนะนำให้วางของสำคัญ เพราะอาจหล่นได้
ชุดมาตรวัดจอ LCD Backlight น้ำเงิน รูปทรงคุ้นตาแสดงผลข้อมูลพื้นฐานครบ ทั้งความเร็ว, เกจ์น้ำมัน, นาฬิกา, Trip A,B อัตาสิ้นเปลืองเฉลี่ย, Volt Battery
สวิทช์แฮนด์ซ้ายรูปทรงทั่วไป ส่วนสวิทช์ขวามีปุ่ม Auto Start/Stop
เปิดเบาะขึ้นมาจะพบกับ U-Box ความจุ 18 ลิตร ใหญ่พอที่จะใส่หมวกแบบเปิดหน้าได้ แต่เต็มใบยังใส่ไม่พอ ส่วนข้างๆกันเป็นถังน้ำมันที่จุ 5.5 ลิตร
ชุดล้อลายใหม่ เป็นลาย 5ก้าน Y เฉียง ในรุ่น ABS ล้อสีทอง ส่วนอีกไฮไลท์นึง คือ ยางที่อัพไซส์ให้กว้างขึ้น 100/80-14 และ 120/70-14
มิติ Click160
ความสูงเบาะ 788 มม.
นน. 118 กก. (ABS) ส่วน STD 116 กก.
ท่านั่ง
ตำแหน่งเบาะ 788 มม. ก็ต้องถือว่าสูงประมาณหนึ่ง ผมยังเหยียบลงได้เต็มเท้า
แต่ด้วยความที่ Click เป็นรถ AT ที่สามารถลอดขาผ่านตรงกลางบอดี้ได้ จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อผู้ขี่ผู้ซ้อนเท่าไร
ตัวเบาะนั่งเรียนตามตรงว่าติดแข็งสักหน่อย นั่งไม่ค่อยสบายเท่าไร ถ้านั่งเดินทางยาวไกล น่าจะเมื่อยก้น
แต่ตัวแฮนด์ค่อนข้างแคบทำให้ลัดเลาะการจราจรไม่ยากเย็น แต่ ตำแหน่งแฮนด์มันก็สูงเท่าๆ กับกระจกรถยนต์เก๋ง ซึ่งถ้าเจอช่องแคบมากๆ ก็ต้องบิดโยกตัวกันสักนิด
ด้านตำแหน่ง Floorboard เค้าได้มีการปรับเพิ่มพื้นที่ Knee Room ให้มากขึ้นหน่อย ตัวเดิมเข่าผมจะเกือบติดๆกับชุดบังลมหน้าแล้ว ตัวนี้มีระยะให้ขยับตัวได้อยู่ ผู้ที่สูงสักช่วงไม่เกิน 180 ซม. น่าจะยังไม่ติด
ส่วนบอดี้เบาแค่ 118 กก. อันนี้ ถือเป็นจุดดีงามมากๆ ในบอดี้ Click เมื่อเทียบกับ PCX หรือคู่แข่งเลย
เพราะ มันขี่ได้คล่องแคล่ว และพอรถเบาเครื่องแรงได้อัตราเร่งดี จุดที่ผมชอบกว่า PCX160 คือ การพลิกคอนโทรลรถได้ไวคล่องกว่า PCX160 ชัดเจน แต่เรื่องความสบาย ก็ต้องยกให้ PCX160 เขา
ด้านตำแหน่งคนซ้อนเบาะค่อนข้างเล็กแคบถ้าคนตัวใหญ่ น่าจะเมื่อยสักนิด ส่วนมือจับกันตก ด้วยความที่ขนาดค่อนข้างเล็ก ช่องสอดนิ้วมือก็ดูแคบ และเว้าบีบเข้าตามแฟริ่งท้าย ทำให้จับได้ไม่เต็ม Grip มือ
ขุมพลังเครื่องยนต์อัพเกรดมาเป็น eSP+ 157cc ที่ยกมาจาก PCX160
เป็นเครื่องยนต์ SOHC 4วาล์ว 15.3PS@8500rpm แรงบิด 13.8Nm@7,000rpm
อันนี้ผมต้องบอกว่าดีงามมากๆ เรื่องสมรรถนะเครื่องผมถือว่า เหมาะสมกับฉายา จ่าฝูง คือ อัตราเร่งผมว่ามาดี ตั้งแต่กระแทกคันเร่งออกตัว แม้มีจังหวะหน่วงนิดๆ แต่ เปิดเต็มก็ดึง แต่รอบต้นๆ เหมือนกัน
จังหวะออกตัวไฟแดง แม้มีคนซ้อนถ้าเรากระแทกคันเร่งหมดก็ได้ความเร็วมาแบบจ่าฝูงเหมือนกัน
ความรู้สึกผมช่วงออกตัว Click160 ดูจะออกดีกว่าคู่แข่งอยู่หน่อย ส่วนช่วงกลาง-ปลาย ผมว่า ไล่ๆ กว่าคู่แข่ง อาจจะรู้สึกขึ้นช้ากว่านิดนึง แต่ถ้าเทียบกับ PCX160 คือ ตัวนี้วิ่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด ปลายก็ไหลกว่า
ส่วนความเร็วปลายนั้นตัวเลขตามมาตรวัดได้ใกล้ๆ กันเลย TopSpeed Click160 หน้าไมล์ผมทำได้ 128kmph
ส่วน GPS จริงได้เท่าไร ดูได้ในคลิปทดสอบอัตราเร่ง-TopSpeed ด้านล่างนี้
อัตราสิ้นเปลืองเคลม 46.9 kmpl ตาม Eco Sticker
บิดใช้งานจริง ซึ่งทางผมเป็นพวกคันเร่งหนักสักหน่อย ได้ ประมาณ 38 kmpl สำหรับผมถือว่าใช้ได้นะ เพราะจากที่เคยบิด รถ Sport AT ตัวแรงเหมือนกัน ใน Condition แบบที่ผมขี่ทดสอบเช่นนี้ จะได้ช่วงไม่เกิน 35 kmpl
ระบบกันสะเทือน
โช้กหน้าหัวตั้ง ด้านหลังโช้กเดี่ยววางเฉียง
จากที่ผมเคยขี่ในสนามมาก่อนหน้าที่ Honda Safety ภูเก็ต ผมพบว่าโช้กเดิมมันทำหน้าที่กำลังดี ไม่รู้สึกแข็งเกินไป
แต่พอมีขี่ถนน ผมต้องขอบอกว่า อาจจะไม่ค่อยชอบสักเท่าไร
โช้กหน้า ระยะยุบค่อนข้างน้อย เวลาขี่ผ่านทางไม่เรียบ หรือ ลูกระนาด ต้องหย่อนชะลอความเร็วลงมาก ไม่งั้น อาจเกิดอาการโช้กยันกระแทก
ส่วนด้านหลัง อันนี้ ผมแอบ Amazing คือโช้กหลัง แข็งพอสมควร กับการใช้งานในถนนประเทศไทย ก็จะปวดหลังได้เล็กน้อย
แต่ถ้าถามถึงเรื่องความคล่องตัว อันนี้ผมก็ยังยืนยันว่ามันทำหน้าที่ได้ดี ในการคอนโทรล คือ พลิกได้ไวกว่า PCX ทั้งช่วงหน้า และด้านหลังตัวรถ เพียงแต่ ผมว่าช่วงล่าง PCX160 ที่เป็นโช้กหลังคู่ มันจะทำหน้าที่ซับแรงได้ดีกว่า สไตล์โช้กเดี่ยว แถมวางเฉียง การรับน้ำหนักผมจึงมองว่ายังไม่ดีเท่าไร
สำหรับไซส์ยางหลังที่อัพไซส์กว้างขึ้น ทำให้มันพลิกเทโค้งได้ดีขึ้น นิดนึง เพราะเนื่องจากหลังโช้กเดี่ยวแม้จะพลิกรถได้ดี แต่ผมว่าอาการช่วงล่างหลังมันยังดูสับๆ ไปนิด เวลาเข้าโค้งบนถนนที่ไม่เรียบเท่าไร ซึ่งจุดนี้ต้องระวังสักนิด
ระบบเบรก จานดิสก์หน้าเดี่ยว ขนาด จับคู่กับปั๊ม Nissin 1 pot มาพร้อม ABS (เฉพาะล้อหน้า)
ด้านหลังจานดิสก์เดี่ยว ขนาด จับคู่กับปั๊ม Nissin 1 pot แต่ไม่มี ABS เหมือนอย่าง ADV150 และ PCX160 (STD ด้านหลังยังเป็นดรัมเบรก)
พอมาขี่จริงบนถนน ด้วยความที่รถแรง อัตราเร่งดี ปั๊มเบรกหน้าขนาดเล็ก ด้านหลังใหญ่ ผมเลยแอบรู้สึกไม่ค่อยบาลานซ์ ด้านหน้ามันดูแข็งๆไปหน่อย ต้องกดลงน้ำหนักลงมาก ส่วนด้านหลังผมว่าทำงานได้ ok แล้ว เบรกลงน้ำหนักดูดนิ้วลงดีกว่าด้านหน้า
ถ้าคนขี่ใช้งานทั่วไปๆ ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
สรุป รีวิว Honda Click160 สปอร์ตเอที ตัวแรง ถือว่าตรงคอนเซ็ปท์ จ่าฝูง เครื่องแรงจริงไม่จกตา
ยิ่งอยู่ในบอดี้ คันเล็กเบาจึงวิ่งดีมาก แต่ ผมแนะนำอยากให้ไปทำช่วงล่างเพิ่ม เซ็ทน้ำมันโช้กหน้าใหม่ เปลี่ยนโช้กหลัง น่าจะขี่ดีขึ้นอีกระดับหนึ่ง ส่วนเบรก ถ้าไม่ได้เป็นสายซัดอะไรผมว่า ok แล้ว แต่ถ้าเป็นผมขอไปเปลี่ยนปั๊มบนนิด น่าจะกดได้ไม่ปวดนิ้ว
ราคา Honda Click 160 STD 63,500 บาท (แนะนำ) มี 3 สี แดง, ขาว, ดำ
ราคา Honda Click 160 ABS 69,900 บาท (แนะนำ) มี 2 สี ขาว และดำ ล้อทองทั้งคู่
อ่านรีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
