
รีวิว ครั้งแรกในโลก เทคโนโลยีจากรถ BigBike 650cc ลงสู่รถ Entry พิกัด 300cc กับระบบส่งกำลัง E-Clutch ที่ถ่ายทอดลงสู่ Rebel 300 E-Clutch คันนี้

สวัสดีทุกคน วันนี้อยู่กับจ๋า MotoRival ซึ่งเราได้มีโอกาสมา รีวิว Honda Rebel 300 E-Clutch หลังจากที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย เมื่อประมาณเดือนที่ผ่านมาในงาน BIMS2025 หลังจากที่ก่อนหน้านั้นไม่นาน ได้มีการเปิด Rebel 250 E-Clutch ไปก่อนหน้า ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าเวอร์ชั่นคนไทยเราจะได้เป็น 300cc อย่างในคันนี้ ซึ่ง MotoRival เราได้มีโอกาส มารีวิว Honda Rebel 300 E-Clutch กันก่อน ต้องบอกเลยว่ามันเหมาะกับ มือใหม่ ขี่ได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ

สำหรับ Rebel นั้น ถือเป็นรถ ที่มีทำตลาดในไทยมาก่อนหน้าหลายปีแล้ว ทั้งใน Segment 300 1สูบ และ 500cc 2สูบ ซึ่งจะถือเป็นรถ BigBike ที่จำหน่ายผ่านทาง Honda BigWing โดย รูปลักษณ์เขา จะเป็นแนวบ๊อบเบอร์ ไฟกลม ชุดไฟเป็น Full LED

ไฟหน้าทรงกลมมากับ โปรเจ็คเตอร์ด้านใน 4 ดวง รับกันกับไฟเลี้ยว LED ทรงกลม

ไฟท้ายเป็นเส้นแถบ LED

ถังน้ำมันทรง Slim ความจุ 11.2 ลิตร รูปทรงเพรียวบาง

ชุดล้ออัลลอยขอบ 16″ สวมยาง Fat Bobber ด้านหน้าไซส์ 130 หลัง 150

มาตรวัดทรงถ้วยกลม แบบ Full Digital บอกรายละเอียดพื้นฐานครบ แต่ เสียดายไม่มีบอกรอบเครื่อง

ด้านมิติรถ Rebel 300 E-Clutch มีความสูงเบาะเพียงแค่ 690 มม. ทำให้มันเอื้อต่อผู้ขี่ทุกสรีระ
นน. 174 กก. (+4 กก. จากรุ่น STD) นน.ที่เพิ่มขึ้นมา 4 กก. โดยรวมก็ยังถือว่ามันเป็นรถที่มี นน.ไล่ๆ กับรถสปอร์ตใน Segment เดียวกัน
ท่านั่ง ตามที่บอกไป สไตล์เบาเตี้ยแบบ Bobber ซึ่งเป็นเบาะนั่งเดี่ยว แบบ Fix ตำแหน่ง ส่วนเบาะท้ายขนาดเล็ก เอาไว้ให้คนซ้อนไซส์ไม่ใหญ่มากนั่งซ้อนไปด้วยได้
ด้วยความที่ถังน้ำมันมีเพรียวบาง ผู้ขี่จึงนั่งได้กระชับ ทำให้นั่งขี่คอนโทรลได้คล่องตัว แนบเข่าได้ค่อนข้างกระชับ และทำให้ตัวรถมีความคล่องตัวพอสมควร แต่เอาจริงๆ เลย รถแนวนี้ ต้องนั่งแบะขาหน่อย ถึงจะเท่ ไม่เน้นหนีบกระชับ เพราะไม่ได้ขี่ทำความเร็วสูง
ตำแหน่งแฮนด์ ต้องบอกว่า มันอาจดูห่างไกลลำตัวไปสักนิด สำหรับคนที่ช่วงตัวไม่ยาว จึงต้องเอื้อมแขนออกไปข้างหน้า ระยะแฮนด์กำลังดี ไม่กว้างยาว จนเกะกะ ทำให้มันมุดรถติดยังทำได้คล่องแคล่ว

เครื่องยนต๋ 1 สูบ หม้อน้ำ พิกัด 286cc DOHC เครื่องบล็อกนี้เรียกได้ว่าเป็นบล็อกอเนกประสงค์ ใช้ในหลายโมเดล Honda ไลน์อัพสปอร์ต มันอาจไม่ได้แรงกระชาก แต่โดยรวมถือว่า แรงพอดีสำหรับนักบิดมือใหม่ หรือ การขี่ใช้งานในเมืองเร่งแซงรถทั่วๆไป แล้ว

และการเพิ่มระบบ E-Clutch เข้ามา ทำให้คนขี่คลัทช์มือไม่คล่องอย่าง @จ๋า ไม่ต้องกังวลเลย ว่ามันจะดับ โดยเฉพาะช่วงออกตัว และ ช่วงที่ ชะลอความเร็ว แล้วต้องคอยเปลี่ยนเกียร์ลดลง รวมถึงในจังหวะจะจอด

แถมมันยังเพิ่มระบบ QuickShifter มาให้ด้วย สะดวกในตอนขึ้นเกียร์ ก็ไม่ต้องผ่อนคันเร่ง ในแบบรถ Supersport

สำหรับการเดินทางไกล นั้น ความเร็วที่พอเหมาะ คือในช่วงประมาณ 100-120kmph ซึ่งจากการทดสอบ TopSpeed ของ @ภณ หน้าไมล์ได้ 150kmph+ GPS จริงได้เท่าไร รับชมได้ในคลิปทดสอบนี้เลย

ระบบกันสะเทือน โช้กหน้าหัวตั้งเทเลสโครปิก ด้านหลังเป็นโช้กสปริงคู่ปรับพรีโหลดได้ 5 Steps
แม้จะเป็นโช้กหน้าหัวตั้ง แต่ขนาดแกนใหญ่ 41 มม. และบอกเลยว่าช่วงล่างตัว 300 นี้ เหมือนกันกับ Rebel500 เรียกว่าสบายหายห่วง

จากการทดสอบช่วงล่างนั้นถือว่านั่งได้สบาย ขี่คนเดียวกำลังดี ขี่ชิลๆ ไปได้เรื่อยๆ หรือ จังหวะที่ @ภณ ทดสอบ TopSpeed และมีการ Jump สะพาน ก็ยังทำได้ดี ไม่ดีดย้วย จนทำให้คอนโทรลลำบาก และด้วยการที่เป็นทรง Bobber พักเท้าวางตรงกลาง รวมถึงถังน้ำมัน Slim ทำให้ ผู้ขี่จัด Riding Position ในการคอนโทรลเข้าโค้งได้ง่าย สะดวกกว่า แนวครุยเซอร์ พลิกเลี้ยยว U-Tun ก็ทำได้คล่องแคล่ว

ระบบเบรก จานดิสก์เดี่ยวทั้งหน้า-หลัง โดยด้านหน้าทำงานร่วมกับปั๊ม Nissin 2pots ด้านหลัง 1 pot มาพร้อม ABS
แม้มันอาจจะไม่ได้มีกำลังเบรกหนักจับจิกแบบกำที่เดียวอยู่มือ แต่โดยรวมก็ยังถือว่า ก็ถือว่า เพียงพอกับพละกำลังและสไตล์รถแล้ว เพราะในรุ่น 500cc ก็ยังให้เป็นเบรกหน้าเดี่ยวปั๊ม 2pots เชนกัน

สรุป รีวิว Honda Rebel 300 E-Clutch กับการเพิ่มเทคโนโลยี E-Clutch จากรถ 650 Series ถ่ายทอดลงสู่รถเล็ก มันจึงเหมาะกับกนักบิดมือใหม่ เพราะ Rebel ถือเป็นรถที่เป็นมิตร เบา ขี่ง่าย คล่องตัว เบาะเตี้ย อยู่แล้ว และการใส่เทคโนโลยีนี้เข้ามาทำให้ มือใหม่ ไม่ต้องกังวลว่าขี่แล้วจะดับ
แถมมือเก๋า ก็ยังสะดวกด้วยการมี QS มาในตัว เทียบกับค่าตัวที่แพงขึ้นหมื่นเศษๆ บอกเลยว่า เหมาะกับใครที่อยากลองขี่รถ Entry Bike ก่อนจะไปลอง BigBike จริงได้เหมาะสมมาก

Honda Rebel 300 E-Clutch ราคา 159,900 บาท มากับสีดำ Pearl Shining Black (แพงขึ้นจาก STD 1.3หมื่น)
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่