เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมาทาง A.P.Honda ได้จัดกิจกรรม ทดสอบ Honda X-ADV ใหม่ ณ สนามบ่อดิน (เรือนแพ ฟิชชิ่ง พาร์ค) ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ไปเมื่องาน Motor Show 2017 ที่ผ่านมา
การทดสอบในครั้งนี้ ที่จริงแล้วได้มีรถทดสอบให้ใช้ขี่ลุยกันอยู่หลายรุ่น ตั้งแต่ Africa Twin, VFR1200X Cross Tourer, NC750X และ X-ADV ซึ่ง ทางเราจะขอมาโฟกัสที่ เจ้า X-ADV ใหม่ คันนี้
สำหรับคันที่ได้นำมาให้ทดสอบนั้นมีเพียงคันเดียว โดยคันนี้ เป็นรถที่ได้เข้ามาโชว์ตัวตั้งแต่ Motor Show ที่ผ่านมา และทาง Honda BigWing ได้ตัดออกมาเป็นรถ Demo สำหรับ Test Ride
ตัวกิจกรรมการทดสอบในวันนี้ เนื่องจากระยะเวลาในการทดสอบค่อนข้างจำกัด จึงจะขอเน้นรวบรัดเข้าในส่วนของการขับขี่ Honda X-ADV คันนี้ ซึ่งจะยังไม่ขอพูดถึงรายละเอียด และออปชั่นของตัวรถทั้งหมดทุกส่วน
ถ้าหากมีโอกาสทาง MotoRival เราจะขอมาทำตัว Full Review ให้ชมกันอีกครั้งครับ
สำหรับ Route เส้นทางการขี่ในครั้งนี้นั้น เน้นทางตรงที่เป็นทางฝุ่นทางลูกรัง มีเนินขึ้น-ลง ที่มีความสูงชัน และโค้งที่ค่อนข้างแคบให้ได้ตะกุยก่ายกันด้วย
เริ่มต้นผู้เขียนนั่งคร่อมเจ้า X-ADV นี้แล้วพบว่า ในส่วนของท่านั่งนั้น เรียกได้ว่ามัน เป็น Big Scooter ขนานแท้ เบาะนั่งขนาดใหญ่ ที่นั่งได้อย่างสะดวกสบาย, ตำแหน่งพักเท้า สามารถวางขาได้ทั้งแบบวางตั้งเท้าปกติ และยันเท้าเหยียดตรงไปด้านหน้า
การขับขี่ทั่วๆไปนั้น ดูจะมอบความสะดวกสบายได้ดีทีเดียว ทั้งตำแหน่งเบาะขนาดใหญ่ ที่นั่งสบาย ท่านั่งวางเท้า เว้นแต่ แฮนด์บาร์อลูมีเนียม ที่ตำแหน่งยกสูง ขนาดยาว และกางตรง ติดตั้งการ์ดแฮนด์ให้พร้อม ซึ่งชัดเจนว่าเป็นแฮนด์บาร์ในสไตล์รถ Enduro ที่เอื้อเฟื้อต่อการควบคุม ขี่ยาวอาจเมื่อยกว่า Big Scooter ที่มีตำแหน่งแฮนด์ปกติ
Honda X-ADV มีความสูงเบาะนั้นที่ 820 มม. และ น้ำหนักตัว 238 กก. (Kerb Weight) ถือได้ว่ามีความสูง และน้ำหนักพอสมควร ดูแล้วจะมีมิติมากกว่ารถ Big Scooter ปกติ
อาจจะเป็นอุปสรรค แก่ผู้ที่มีสรีระค่อนข้างเล็กอยู่บ้าง
ขณะที่ระยะ Ground Clearance ที่ 162 มม. อาจไม่ได้ดูสูงมากนัก แต่มีการ์ดด้านใต้เครื่องยนต์ ช่วยป้องกัน ให้การปีนป่ายเส้นทางอุปสรรคนั้น สามารถลุยได้มากกว่า Big Scooter ทั่วๆไป
เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ความจุ 745cc แบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ จากตระกูล NC750 สร้างกำลังได้ 54 แรงม้า@6,250rpm และแรงบิด 68Nm@4,750rpm จับคู่เกียร์ DCT (Dual Clutch Transmission) แบบที่ใช้ในรถยนต์ คลัทช์คู่
มาถึงด้วยกุญแจแบบ Smart Key สะดวกสบาย ติดเครื่องยนต์ได้โดยไม่ต้องเสียบกุญแจ เมื่อติดเครื่องแล้ว จากตำแหน่งเกียร์ N เราจะต้องกดสวิทช์ทางฝั่งขวามือ จาก N->D->S เพื่อเป็นการเข้าโหมดการขับขี่ หลังจากนั้นก็แค่ “บิดอย่างเดียวแบบรถ AT”
การขี่ในโหมด D พบว่าในช่วงจังหวะที่ตัวรถเปลี่ยนเกียร์เองนั้น พบว่าดูสมูทขึ้นกว่า NC700 เดิม ซึ่งถ้าขี่แบบชิลๆ ไม่สนอะไรมากมายก็อาจจะไม่รับรู้ถึงช่วงจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์
เมื่อมาเลือกโหมด S (Sport) คุณจะสามารถบิดลาดรอบได้สูงขึ้น เพื่อตอบสนองในการขี่แบบสปอร์ต และมันยังสามารถขี่แบบรถเกียร์ MT ได้ (Shift เกียร์ได้เอง) ด้วยสวิทช์เปลี่ยนเกียร์ที่อยู่ทางฝั่งซ้าย + ด้านบนนิ้วชี้ – ด้านล่างนิ้วโป้ง
การ Shift เกียร์เองนั้นจะสัมผัสถึงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ได้ชัดเจนขึ้น มีจังหวะและเสียงกรึกๆ คล้ายๆ กับฟีลลิ่งในรถยนต์ มี Engine Brake ให้สัมผัสนิดๆ เพื่อชะลอความเร็ว ไม่ว่าจะเข้าโค้ง หรือลงทางชันก็ตาม
กำลังเครื่องยนต์นั้น แม้ว่าจะไม่ได้แรงจัดจ้าน แต่แรงบิดสูงที่มอบให้ในย่านเครื่องยนต์กลางๆ ทำให้การบิดส่งตัวรถขึ้นทางชันนั้นทำได้โดยง่าย และยิ่งสะดวกที่ไม่ต้องมาพะวงบีบคลัทช์ตบเกียร์ให้เสียจังหวะ เรียกได้ว่ากำลังอยู่ในเกณฑ์ที่แรงอย่างเหมาะเจาะ ไม่แรงดุดิบจนน่ากลัวในการคุมคันเร่ง แต่ถ้ากระแทกคันเร่งหนักๆ บนทางฝุ่นเช่นนี้อาจมีล้อหลังปัดให้เห็นได้อย่างไม่ยากนัก
ระบบกันสะเทือน นั้น X-ADV ใช้โช้คหน้า USD ขนาด 41 มม. มีระยะเคลื่อนตัว 153.5 มม. และโช้กหลังแบบ Prolink ปรับ Preload ได้มีระยะเคลื่อนตัว 150 มม. นอกจากนี้ได้สวมล้อซี่ลวด ใส่ยาง Bridgestone Trail Wing ขนาด 120/70/R17 ด้านหน้า และ 160/60/R15 ด้านหลัง เพื่อรองรับในส่วนของการซับแรง และตะลุยได้มากขึ้น
แม้ว่าจะใช้โช้กหน้าแบบหัวกลับ แต่เมื่อดูจากตัวเลขระยะยุบตัวนั้น แน่นอนว่า มันไม่ได้มีขนาดช่วงยุบที่ยาวมาก แบบรถ ADV แท้ๆ
ในส่วนการขี่แบบลุยๆ Enduro แบบจริงจังนั้น การขี่ลุยจึงยังรู้สึกว่ามีกระเด้งกระดอนบ้าง และด้วยตำแหน่งท่านั่งดูจะไม่เอื้อเฟื้อกับการยืนเสียเท่าไรนัก เพราะตำแหน่งวางเท้าที่ยื่นไปด้านหน้าทำให้ขึ้นยืนทรงตัวลำบาก โดยรวมแล้วถ้าขี่ทางฝุ่นแบบลูกรัง เช่นสนามที่เราได้ทดสอบนี้ ถือได้ว่าสอบผ่านไปได้อย่างสบายๆ นั่งรูดบิดคันเร่งส่งอย่างเดียวให้ฝุ่นตลบ ไม่ต้องมายืนอะไรให้ยุ่งยากลำบากวุ่นวาย แต่ถ้าคิดจะนำไปลุยทางวิบากจริงจังนั้น อาจจะมีเหนื่อยหน่อย
สรุปเบื้องต้น Honda X-ADV รถ Big Scooter ที่นิยามว่าเป็นรถ X (Crossover) ซึ่งจะว่าไปแล้ว ผู้เขียนรู้สึกว่าเจ้า X-ADV คันนี้ Honda ได้ต่อยอด Integra 750 ด้วยออปชั่น และสเป็กที่เอาไว้ใช้งานทางลุยมากขึ้น
ถือได้ว่าเป็นการสร้างนิยามใหม่ให้แก่ Big Scooter จะทางเรียบก็ขี่สบาย แรง ออปชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน ขณะที่จะลุยฝุ่นก็ไปได้แบบชิลๆ แต่ถ้าจะเอาไปลุยจริงจัง ควรไปที่รถ ADV แท้ๆ น่าจะเหมาะสมกว่า และรถนั้นมีมิติที่ค่อนข้างใหญ่ และหนัก ซึ่งผู้ที่สรีระเล็กอาจจะขับขี่ลำบากเล็กน้อย
กับราคาค่าตัว Honda X-ADV ที่ 4.15 แสนบาท แพงขึ้นกว่า NC750X พอควร แต่ก็ได้เพิ่มออปชั่นมามากด้วยเช่นเดียวกัน หากเทียบกับรถ Big Scooter แล้วยังถือได้ว่ามีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าแบรนด์อื่น อยู่ดี
ขอขอบคุณ A.P.Hondaและ Honda BigBike สำหรับกิจกรรมทดสอบในครั้งนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver + Photos
ขอบคุณคุณหว่อง (Just Ride It) Photos
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว รีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ