รีวิว Kawasaki Z500 by MotoRival ซึ่งหลังจากที่ปลายปีทีผ่านมา เราได้มีโอกาส ทำ รีวิว Ninja500 กันไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่มันได้เปิดตัวหมาดๆ ก็มีคนถามผมมาเหมือนกันว่าจะมีโอกาสได้รีวิว Z500 บ้างไหม และ วันนี้ในงาน Kawasaki Circuit Fun Ride 2025 ณ สนามแก่งกระจาน เราก็ได้มีโอกาสมาสัมผัสมัน แบบ 1st Impression ให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันครับ
ซึ่งเราต้องขอบอกก่อนว่า ในคอนเทนต์นี้ เราจะรีวิว Z500 แบบทดสอบสมรรถนะแบบสัมผัสแรก ประมาณ 15 นาที ในสนามเท่านั้น เรื่องสเป็กรายละเอียดดีเทล ตัวรถนั้น เราได้เคยพรีวิว ไปกันคร่าวๆ แล้วตั้งแต่ช่วงงาน Motor Expo 2024 (รับชมได้ที่นี่) ดังนั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลา มาเข้าเรื่องกันเลย
เริ่มกันที่ท่านั่ง
เบาะสูง 785 มม. เท่ากับ นินจา ซึ่งต้องเรีบกว่าช่วงครึ่งคันท้าย เหมือนกันเลย ต่างกันแค่ครึ่งคันหน้าที่เป็นร่างเปลือย และ ฟูลแฟริ่ง ผมสูง 175 ซม. สวม เรซซิ่งบูท เหยียบลงเต็มเท้าหย่อนเข่าได้เหลือๆ ใครไม่สุงมากช่วง 170cm ลงมา ยังพอที่จะนั่งคร่อมได้ไม่ลำบาก
จุดหลักๆ คือ การเปลี่ยนจากแฮนด์จับโช้กด้านบนแผงคอมาเป็นแฮนด์บาร์ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ในตัว นินจา นั้น แฮนด์มันก็สูงพอควรในสไตล์สปอร์ตทัวริ่ง ทำให้ขี่ถนน หรือ เดินทางไม่เมื่อยมาก แต่ในแฮนด์บาร์ของ Z500 ผมมองว่า มันไม่ได้ตำแหน่งสูงขึ้นหรืออะไรมากนัก แต่เป็นเรื่องขององศา ที่เป็นแฮนด์ออกกางตรง ทำให้ องศาการเลี้ยวอะไรจะทำได้ดี คล่องตัวขึ้นอีก
และ นน.ตัวของมันอันนี้ คือ สิ่งที่ดีงาม เพราะเบาเพียง 166 กก. เบากว่าคู่แข่งชัดเจน เรียกว่าเบา พอๆกับพวก Sport 300cc เลย ทำให้ผู้ขี่ไม่เหนื่อย ไม่ว่าจะเวลาเข็น หรือ ขี่คอนโทรล พลิกรถต่างๆ
เครื่องยนต์ 2 สูบ 451cc กำลังช่วง 52ps ทอร์ค 42.6Nm บอกเลยว่านี่คือจุดดีของรถคันนี้ เพราะเทียบกับ Z400 มันมีพิกัดเพิ่มประมาณ 50cc แรงขึ้นทั้งกำลังและแรงบิด โดยมันยังมากับ Assist & Slipper Clutch
โดยรวมแล้วเมื่อเทียบกับรถใน Segment เดียวกัน สำหรับผม กล้ายืนยันเลยว่ามันขี่สนุกกว่า เพราะรีดรอบได้สูงกว่า รอบจัดกว่าบิดมันส์ ติดมือดีกว่า ซึ่งหลักๆ ผลมาจากเรื่องของ Power Weight Ratio ที่ทำได้ดีมากๆ จึงทำให้ Z500 ทำได้ดีกว่า รถคู่แข่ง ขณะที่รถมีระบบ Slipper Clutch ทำให้ผมรู้สึกว่าขี่ได้สบาย ในเมืองก็ไม่เมื่อยนิ้วมือเวลากำคลัทช์ รวมไปถึงเวลาลดเกียร์ลง Engine ก็ไม่ดึงลงที่ล้อหลังมากจนทำให้เสียการควบคุม
ระบบกันสะเทือน ช่วงล่าง ด้วยสไตล์ที่ออกแนว On Road พอมาขี่ในสนามแก่งกระจานฯ แห่งนี้ ซึ่งสนามผิวไม่ราบเรียบมี Bumping เยอะหลายจุด จึงทำให้บางช่วงรถก็มีดีดๆ ลอยๆ หลายจังหวะ และด้วยความที่เป็นสไตล์แฮนด์บาร์ ในจังหวะเตะเกียร์ที่รอบสูงๆ ผมยังมีพบอาการหน้าชกนิดๆ ซึ่งก็อาจต้องคอนโทรลจับช่วงแฮนด์ให้มั่นคง ส่วนด้านหลัง ก็ยังถือว่าเฟิร์มดีระดับนึง อาจไม่แน่นตึ๊บ แต่บอกเลยว่าเรื่องซับแรง ถือว่าทำได้ดีมากทีเดียว ไม่กระแทกกระทั้น ผู้ขี่และผู้โดยสาร จะรู้สึกได้ว่าเป็นสปอร์ตเน็คเก็ทที่นั่งสบายพอสมควร
ระบบเบรก อาจจะเป็นอีกจุดที่หลายคนมองว่ามันด้อยกว่าคู่แข่งเมื่อมองด้วยตาซึ่งก็เข้าใจได้ ภาพรวมในการใช้งานก็ถือว่า มันยังบีบไล่น้ำหนักเบรกได้ดี แม้พละกำลังในการเบรกจะไม่ได้รู้สึกหนักแน่นมาก จากการใช้จานเดี่ยวและเป็นคาลิปเปอร์ 2 pots สำหรับการขี่ในสนามแห่งนี้ มันยังทำหน้าที่ได้ดีในการเทรลเบรก ในจังหวะที่เป็นโค้ง Hi Speed ที่อาจไม่ต้องใช้เบรกหนักมากนัก อย่างโค้ง ซ้ายด้านนอก ก แต่ถ้ากรณีโค้งที่อาจต้องเบรกหนัก อย่างโค้งสุดท้าย และ U-Turn ซ้าย ก็อาจต้องเผื่อระยะเบรกเพิ่ม และ Shift Down เพื่อเพิ่มแรง Engine เข้าไปให้มากหน่อย
สรุป รีวิว Kawasaki Z500 แม้จะเป็น 1st Impression ก็ต้องบอกว่า มันเป็น Naked Bike ที่มีดีมากกว่าที่ตาเห็น ขี่สนุก ได้ Power/Weight Ratio ที่ดีมาก ไม่อยากให้มองแค่สเป็กที่ดูด้วยตาแล้วตัดสิน เอาเป็นว่ามันเป็นรถที่ขี่สนุก มันส์ ทั้งถนน และสนาม ขี่ได้ทั้งมือใหม่ และมือเก๋า
Kawasaki Z500 ราคา 218,900-
ผู้สนใจติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Kawasaki Motoaholic
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Kawasaki เพิ่มเติมได้ที่นี่