รีวิว Malaguti Madison 150 เอทีอิตาลี ดีไซน์โดน ขี่แค่สัมผัสแรก ก็ดีใช้ได้เลย
รีวิว Malaguti Madison 150 หลังจากที่หลายสื่อ ได้รถไปทดสอบกันแล้ว ทางทีมงาน MotoRival เราจึงรีบมาที่ โชว์รูม Moto Praram 5 กันเลย (ขี่แบบทางยาวๆ ไม่เจอรถติด ไม่มีไฟแดง)
โดยในคอนเท้นต์ก่อนหน้าผมได้พรีวิว พาชมคันจริงกันไปแล้ว กับดีเทลรายละเอียด รับชมได้ที่นี่ ดังนั้นผมจะขอมาเข้าที่ฟีลลิ่งการขี่กันอย่างเดียวเลย
เริ่มที่ท่านั่ง
Madison 150 เบาะสูง 755 มม. และไม่ได้กว้างมาก ผมสูง 175 ซม. สวมรองเท้า ก็เหยียบได้เต็มเท้าหย่อนเข้าได้สบายๆ แต่เนื่องจากเบาะชิ้นเดียว แบ่ง 2 Step ถ้าใครสายหมอบ และช่วงตัวยาวหน่อย อาจจะนั่งหมอบไม่ค่อยถนัด เพราะตัวจะขดอยู่ ซึ่งอาจต้องยกก้นขึ้นไปไว้เบาะหลัง
ตำแหน่งแฮนด์ ดูดีมาก ผมว่ากำลังดีเลย กลางๆ ออกไปทางเตี้ย ซึ่งขี่แล้วกำลังสบาย ความสูงดูจะเตี้ยกว่ารถยนต์เก๋งอยู่หน่อย และตำแหน่งกระจกมองข้างก็ดูจะเตี้ยกว่ากระบะยกสูงลงมาหน่อย เช่นกัน
และกระจกข้างขนาดเรียวเล็ก ผมว่าน่าจะมุดลัดเลาะได้ไม่ลำบาก
ต่อกันที่ตำแหน่ง Floorboard วางเท้า ดูจะแคบไปหน่อย ถ้าใครใส่รองเท้าใหญ่ๆ ด้านนอกเท้าจะเหยียบล้นออกมานอก Floorboard สักนิด
แต่จุดที่ผมประทับใจมากๆ คือ บอดี้มัน นน. 142 กก. (สุทธิ) อาจดูไม่ได้เบามาก แต่พอมาขี่จริงมันพริ้วมากๆ ผมว่าให้เป็นเบอร์ต้นของรถ Premium AT เลย ขี่ได้คล่องแคล่ว ในระดับ Nmax155 คือ ขี่ได้สนุก จากบอดี้ตัวที่มันไม่ได้ใหญ่มาก
สำหรับตำแหน่งคนซ้อน พบว่าแม้เบาะจะขนาดเล็ก แต่สำหรับสรีระผมยังนั่งได้สบายๆ ก้นไม่ตกเบาะ ส่วนมือจับกันตกก็จับได้เต็ม Grip มือ
แต่สุดที่ดูจะเป็นปัญหา คือ แฟริ่งท้ายดีไซน์ปราดเปรียวมีมุมแหลมคม ซึ่งบาดน่องผู้ซ้อนทำให้เจ็บได้
เครื่องยนต์ 150cc 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ อารมณ์เสียงผมว่าดูคล้าย GPX Drone
แต่จากการขี่จริงผมรู้สึกว่ามันให้ความกระฉับกระเฉงดีกว่า แม้เรื่องความแรงจะสู้แบรนด์ชั้นนำญี่ปุ่นทั้ง 2 ฝั่งไม่ได้ แต่ผมว่ามันก็ให้อัตราเร่งที่ดีกว่า Drone และ ขับสนุกเป็นเบอร์ต้นๆ เหมือนกัน
ด้านความเร็วปลาย บนมาตรวัดได้ 127-128 kmph ตามคาดการณ์ที่ผมคาดไว้ว่าทำได้ 125-130 kmph ส่วน GPS จริงได้เท่ารับชมได้ที่คลิปทดสอบ 0-TopSpeed Test
ส่วนอัตราสิ้นเปลือง เนื่องจากครั้งนี้เป็น 1st impression ผมขี่ประมาณ 10-15 นาที เท่านั้น ไม่ได้จับอัตราสิ้นเปลืองแต่อย่างใด ซึ่งจากการคาดการณ์ผมว่าน่าจะใกล้เคียง GPX Grone
โดยน่าจะมีตัวเลข ยี่สิบปลาย – สามสิบต้น ตามสไตล์การขี่แบบ MotoRival เราที่ไม่เน้นประหยัด
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าหัวตั้ง Telescopic ด้านหลังโช้กคู่ปรับได้ 5 ระดับ ตามสเป็ก
จากการใช้งานจริงผมพบว่ามันทำได้ดีเยี่ยม เลยโดยเฉพาะด้านหลัง คือ รถ AT ส่วนใหญ่ จุดบอด อยู่ที่ระบบกันสะเทือน ที่ไม่ดี คันนี้ เฟิร์มแน่น ไม่กระด้างแข็ง ซึ่งมันมีช่วงยุบที่มากพอประมาณ
อย่าง Nmax ช่วงล่างกำลังดีแล้ว แต่ ช่วงยุบน้อยมาก จนต้องระวัง กระแทกโช้กอาจยันได้
แต่ Madison 150 ผมจั๊มสะพาน แบบไม่ผ่อน ยังไม่เป็นอะไร และการซับแรงก็ดี ไม่กระแทกกระทั้น
ส่วนด้านหน้า ก็เบาพลิกรถได้ง่าย คล่องสุดๆ แต่มีจุดสังเกตุ คือ มันดูจะยืดหยุ่นดีไปหน่อย ขี่เร็วๆ 110+ ผมพบว่า หน้ามันเหมือนๆ จะเริ่มแกว่ง ตอนเจอลม ซึ่งต้องประคองแฮนด์ให้ดีหน่อย ผมอยากให้มันหนืดกว่านี้อีกนิด ซึ่งก็น่าจะแก้ปัญหาได้ไม่ยาก โดยการเซ็ทน้ำมันโช้กใหม่ น่าจะดีขึ้น
ระบบเบรก ด้านหน้าจานเดี่ยวแบบ Wavy Disc ขนาด 250 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์ 3 pot ด้านหลังจานเดี่ยว Wavy เหมือนกัน ขนาด 220 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์ 1 pot
ไม่มี ABS แต่ให้ CBS (Combine Brake) สายเบรกให้มาเป็นสายถักเลย
สำหรับผมก็ถือว่า ok พละกำลังเบรกเพียงพอต่อความแรงรถ หยุดอยู่ แต่ผมพบว่าปั๊มบนมันแข็งไปนิด คือ เบรกอยู่ แต่ไล่น้ำหนักได้ยากนิดเพราะมันแข็งไปหน่อย ถ้าซัดๆ มาต้องการกดเบรกแรงๆ บ่อยๆ ก็ปวดนิ้วมือได้เหมือนกัน ด้านประเด็นไม่มี ABS สำหรับผมเฉยๆ เลย เพราะส่วนตัวรถพิกัด 150cc สำหรับผมเฉยๆ ผมไม่ค่อยชอบ ABS เท่าไรเพราะทำให้การกะระยะเบรกอาจเพี้ยน แต่ถ้าขี่ช่วงหน้าฝนเช่นนี้ ก็เข้าใจได้ มี ABS ก็จะปลอดภัยกว่า แต่ ก็ต้องเข้าใจว่าราคาอาจพุ่งไปมากกว่านี้หลายพัน หรือ อาจเกือบหมื่น
สรุป รีวิว Malaguti Madison 150 แบบสั้นๆ แต่ได้ใจความ ขี่ดีพริ้วกว่าที่คิด แรงตามคาด ช่วงล่างดี เบรกใช้ได้ ที่สำคัญหล่อ
ราคา Malaguti Madison 150 แนะนำอยู่ที่ 79,800-
มากับ 4 สี สีด้าน ได้แก่ แดง, เขียว ส่วนสีเงา ได้แก่ ขาว, ดำ
ใครสนใจไปรับชมตัวจริงได้เลยที่ Moto Praram5
อ่านข่าว Malaguti เพิ่มเติมได้ที่นี่