รีวิว Yamaha R15M WGP 60th กับการทดสอบขี่บนถนน หลังจากเคยหวดในสนามไปแล้ว
รีวิว Yamaha R15M เจ้า Cyclops Entry น้องเล็ก ค่ายส้อมเสียง ได้มีโอกาสจัดเต็มอีกครั้งบนถนน เก็บตกประเด็นการใช้งานจริง จะเป็นอย่างไรกันบ้าง
หลังจากที่ทางทีมงาน MotoRival เราได้พาพรีวิว R15M / 2022 R15 รวมถึงทำรีวิว กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เรายังไม่เคยได้มีโอกาสขี่จริงบนท้องถนนเลย ในวันนี้จึงขอมาจัดเต็มมันอีกครั้ง
กับการขี่บนถนนจะเป็นเช่นไร
ขอเริ่มที่รูปลักษณ์ กันก่อน มันได้รับแรงบรรดาลใจมาจากพี่กลาง ตระกูล YZF-R7 จากชุด Cowling หน้า และมีไฟโปรเจ็คเตอร์ตรงกลาง
ชุดไฟส่องสว่างเป็น LED หน้า-หลัง ส่วนไฟเลี้ยวน่าเสียดายที่ยังเป็นหลอดไส้
มาตรวัด Digital LCD Style แบบ R1 มี Street Mode ซึ่งสามารถปรับเป็น Track Mode ได้รอบเครื่องจะเริ่มโชว์ที่ 6,000rpm+ ขึ้นไป และสามารถกดจับเวลาได้ที่ปุ่มไฟ Pass โดยตัวระบบจะสามารถเก็บข้อมูลเวลา Lap ที่เร็วที่สุดเอาไว้
และไม่เพียงเท่านั้นจอนี้ ก็จะรองรับระบบ Y-Connect ในทุกรุ่นย่อย
ชุดสวิทช์ไฟซ้าย ก็จะมีปุ่มพื้นฐานทั่วไป
ชุดสวิทช์ไฟด้านขวา ก็จะต่างจาก R15 Connected คือ ปุ่ม Run-Off และ Engine Start เป็นปุ่มเดียวกันเลย ในรูปแบบรถ Bigbike
เบาะนั่งก็โดดเด่นด้วยลายเคฟล่า ปัก R15M ที่เบาะท้าย
โดยคันที่เราได้มารีวิวครั้งนี้เป็น สีขาว-แดง R15M WGP 60th Anniversary ก็จะมีลูกเล่นที่โลโก้ถังน้ำมันเป็นสีทอง, ล้อทอง
ถังน้ำมันมาพร้อมโลโก้ World GP 60th Anniversary ด้วย
ชุดปลายท่อทรงใหม่ ซึ่งผมแอบรู้สึกว่าตัวเก่าทรงสวยกว่า
สวิงอาร์มอลูมีเนียม ในตัว R15M จะทำสีเงินสวยงามแบบพี่ใหญ่ Superbike R1M
ล้ออัลลอย สวมยางไซส์ 100/80R17 หน้า และ 140/70R17 หลัง
มิติรถ R15M
ความสูงเบาะ 815 มม.
กxยxส = 725 x 1,990 x 1,135 มม.
Wheelbased 1,325 มม.
Ground Clearance 170 มม.
นน. 140 กก. (wet)
ถังน้ำมันจุ 11 ลิตร
ท่านั่ง
2022 R15 / R15M เบาะนั่งสูงเท่าเดิม 815 มม. สำหรับผมสูง 175 ซม. สวมรองเท้าบู๊ทยังเหยียบได้เต็มฝ่าเท้า พอหย่อนเข่าได้สบายอยู่ เพราะช่วงแคบสุดของเบาะนั้นไม่กว้าง
จากที่ได้เคยบอกไปว่าท่านั่งเป็นมิตรกว่าเดิม จาก แฮนด์สูงขึ้้นนิดนึง แต่บอกเลยว่าขี่จริงบนถนน ผมยังเมื่อยเหมือนเดิม
ขณะที่พักเท้าปรับใหม่ ร่นไปด้านหลังอีกหน่อย ทำให้ท่าทางในการจัด Ride Position โหนโค้ง อะไรต่างๆ ดูดีขึ้น
ด้านจุดที่ชอบอีกอย่าง คือ ตัวเบาะยาวกว่าเดิม ทำให้เวลาขี่หมอบ ร่นก้นไปด้านหลังหน่อย ศอกหนีบถัง ทำได้พอดีตัว
เหมาะกับคนสรีระตัวที่ยาว เนื่องจากตัวเก่า อาจจะต้องยกก้นขยับไปที่เบาะนั่งคนซ้อนกันเลย เพราะไม่เช่นนั้นจะขดตัวอยู่ตรงกลางตรงเบาะ
ส่วนถังน้ำมัน พบว่ามันโหนกสูงขึ้นนิดหน่อย ตามแบบฉบับ Bigbike แต่โดยรวมก็ยังดูไม่ใหญ่ เพราะความจุถังค่อนข้างน้อย
นน. ตัว R15M ด้วยความที่จัดระบบเทคโนโลยีมาให้แบบเต็มๆ ทำให้มันต้องมี นน. เพิ่มขึ้นมาอีก 3 กก. คือ 140 กก. เมื่อเทียบกับ R15 Connected ที่จะมี นน. เท่าโฉมเดิม คือ 137 กก.
ตำแหน่งคนซ้อนกันบ้าง ด้วยความที่ท้ายค่อนข้างสูง ดังนั้นผู้ซ้อนไซส์เล็กอาจต้องก้าวทีละสเต็ป ส่วนตำแหน่งเบาะ ถือว่าแบนอยู่ไม่ได้เฉียงลงมาก ทำให้รู้สึกนั่งแล้วไม่ไถลมากนัก แม้เบาะจะขนาดเล็ก
แต่ด้วยความที่เป็นตระกูล YZF-R ถอดแบบ Sportreplica เลยไม่มีมือจับกันตกหลัง จะจับแฟริ่งท้ายก็ดูจะไม่กระชับมือ ต้องเกาะเอวผู้ขี่เอาล่ะ
ขุมพลัง เครื่องยนต์ 155 VVA เครื่องตัวนี้ก็ ยกมาจาก เจน3 ก่อนหน้า และไม่เพียงเท่านั้น เครื่องบล็อกนี้ได้การันตีสมรรถนะ
ลงมาในหลายโมเดล ทั้ง MT-15, XSR155 หรือ แม้แต่ตระกูล AT อย่าง Aerox, Nmax ไปจนถึง Moped อย่าง Exciter 155
ต้องบอกว่าภาพรวม เครื่องบล็อกนี้ ถือว่าจัดจ้าน เด่นช่วงย่าน กลาง-ปลาย โดยเฉพาะช่วงรอบแตะๆ 7,000rpm+ ขึ้นไป ช่วงนี้รอบกวาดมาเร็ว ติดมือ รู้สึกถึงแรงดึงจากช่วง VVA เปิด ทำงาน
และอย่างที่ทราบกันมันมาพร้อม Slipper Cltuch แต่ได้เพิ่ม QS (1way) มาในโฉม R1M นี้ ซึ่งรอบทำงานของมันจะมีไฟ QS ขึ้นให้ตรงหน้าจอ
ผมพบว่า ตอบสวมบู๊ท มีปัญหาในการเตะเกียร์ขึ้นอยู่พอสมควร เวลาลากรอบสูงๆ และเตะเกีย แต่ถ้าใช้แบบขี่ทั่วๆไป ก็ถือว่าช่วยอยู่ สะดวก ตรงที่ไม่ต้องกำคลัทช์ และผ่อนคันเร่ง
แต่ถามถึงฟีลลิ่งในการเล่น QS แบบรีดอัตราเร่งต่อเนื่อง ผมต้องเรียนตามตรงว่า มีให้เล่น แต่อาจจะไม่ลื่นไหลเหมือนพวก Sport Replica ทั้งพิกัด 250, 600, 1000
ในส่วนของอัตาเร่ง-TopSpeed ผมทำได้ที่ 150kmph ซึ่งถามว่าจริงๆ น่าจะไหลได้มากกว่านี้อีกหน่อย แต่ขึ้นช้ามากแล้ว และการจราจรเริ่มคับคั่ง ส่วน GPS จริงได้เท่าไรรับชมได้ในคลิป
ส่วนอัตรากินน้ำมัน ก็ด้วยความที่ผมเน้นซัดเอา Performance เส้นบางนาตราด แม้ว่าไม่เจอไฟแดงเลย แต่ ส่วนใหญ่ ใช้รอบค่อนข้างสูงเกือบตลอด จนไปถึงการเทส TopSpeed ได้ตัวเลขประมาณ 32 km/l
ระบบกันสะเทือน
ยังคงเป็นเหมือนเดิม คือ โช้กหน้าแบบ UpSideDown กระบอกสีทอง
ด้านหลังเป็น Monoshock ปรับพรีโหลดไม่ได้ วางบนสวิงอาร์มอลูมีเนียม
จากที่ผมบอกไปว่าขี่ในแทร็กดีเลยสนุกมากๆ เฟิร์มแน่น แข็งขี่สนุกเกาะถนนดี
โดยรวมโช้กหน้าไม่มีปัญหาอยู่แล้วกับการใช้งาน แต่ด้านหลัง ขี่บนถนน อย่างเส้นบางนาตราด ที่พื้นแทบจะเป็นหลุมดวงจันทร์ หลังแข็งดีด สะเทือนหลังพอควร หรือ เวลาจั๊ม คอสะพาน ก็จะกระแทกๆ หน่อย
คือ ขี่ถนนรู้สึกเลยว่าแข็งไป แต่ถ้าขี่เร็วๆ นี่ก็ถือว่ามั่นคงดี โดยส่วนตัวยังคงมองว่าเหมาะกับคาแรกเตอร์สปอร์ตชัดเจน แต่ไม่ค่อยจะ Comfort นัก
ระบบเบรก ของ R15M จะแตกต่างจาก R15 Connected คือ คาลิปเปอร์หน้าให้มาเป็นของ bybre
ส่วนด้านหลังจะเป็น Nissin 1 pot
และจะมี ABS ให้เฉพาะรุ่น R15M เท่านั้น
จากที่ได้กล่าวไปใน รีวิวก่อนหน้าในแทร็ก ผมยังมองว่าเบรก bybre กับระบบ ABS ผมยังไม่ค่อยชอบเท่าไร
คือ มันพอไล่ลงน้ำหนักได้ แต่ทื่อนิดๆ ออกหนืดๆหน่อย เบรกยังไม่จับจิก
เมื่อซัดมาหนักๆ เบรกลงน้ำหนัก แล้วพอ Shift Down เกียร์ เพื่อใช้ Engine Brake ช่วย ด้วยความที่มี Slipper Clutch อยู่ แล้วผมว่ามันดูยังไม่อยู่เท่าไร
(ส่วนหนึ่งผมขี่ซัดค่อนข้างหนักด้วย)
แต่คนทั่วไป เน้นใช้งานธรรมดา มันก็ยังถือว่าพอบีบไล่น้ำหนักชะลอความเรีวลงได้ประมาณหนึ่ง แต่ด้วยความที่เขาเป็นตัวแรง แถมคาแรกเตอร์ช่วงล่างก็ออกแข็งๆ แบบสปอร์ตแล้ว ผมเลยอยากได้ฟีลลิ่งเบรกน่าจะปรับเซ็ทให้มันจับจิกด้วย เพื่อรับกันกับคาแรกเตอร์สไตล์ของตัวรถ
สรุป รีวิว Yamaha R15M/strong> แบบมาขี่จริงหวดเต็มๆ บนถนน ต้องบอกว่าหน้าตาหล่อตามแบบรุ่นพี่ Supersport คลาสกลาง
และออปชั่นแน่นสุดในกลุ่ม Sport Entry 150 แล้ว แต่ราคาก็พุ่งตามออปชั่นด้วย
กับที่เคยขี่ในสนามแก่งกระจานไปก่อนหน้า ต้องบอกว่าขี่สนุกขี่ดีมาก พอมาขี่บนถนน แม้จะปรับท่านั่งแล้ว แต่มันก็เมื่อยอยู่ดี ไม่ได้หนีจากตัวเดิมเท่าไร
ประเด็นที่หลายคนบอกมันแพง ไปเล่นรถที่ cc เยอะๆ แรงๆ ได้เลยอันนั้น ก็จริง แต่รถคันนี้ ขายความเป็นคาแรกเตอร์ ที่ถอดแบบมาจากพี่ซุปเปอร์ไบค์ตัวใหญ่
แต่ไม่ต้องการรถที่แรงมาก เน้นขี่ได้สนุก ออปชั่นแน่นๆ หรืออยากได้เป็นรถซ้อมในแทร็ก ก็ดูเหมาะสม ซึ่งถ้าใครงบถึงก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
แต่ถ้าใครชอบความแรง และเทียบกับจำนวนเงินที่จ่ายไป คงต้องมองข้ามไป R3 มือสอง ดูจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กว่า
ราคา Yamaha R15 Connected 1.15 แสนบาท
ราคา Yamaha R15M Connected 1.35 แสนบาท
ราคา Yamaha R15M WGP 60th 1.37 แสนบาท
อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่