รีวิว YZF-R7 หวดไซคลอปส์มิดไซส์ @สนามช้างฯ กับวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ
สวัสดีครับคุณผู้ชมทุกท่าน กลับมาพบกับผม ภณ MotoRival ณ ตอนนี้ เราอยู่กันที่ ช่้างฯ เซอร์กิต เพื่อมาทดสอบเจ้าไซคลอปส์มิดไซส์
YZF-R7 ในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ
หลังจากที่เจ้า ไซคลอปส์มิดไซส์ YZF-R7 ได้เปิดตัวประกาศราคาในไทย ไปประมาณ สัปดาห์นึง ทางทีม MotRival เราน้องจอนก็ได้พาไปพรีวิว ชมตัวจริงเป็นที่เรียบร้อย ถ้าใครยังไมไ่ด้ ชมรบกวนกดดูได้ที่นี่ ก่อนครับ
เพราะรีวิว นี้ ผมจะขอเป็นแบบ 1st Impression เนื่องด้วยเวลาจำกัด ผมจึงไม่ขอพรีวิว ซ้ำ จะมาพูดถึงฟีลลิ่งการขี่จริงในช่้างฯ เท่านั้นครับ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าวันนี้สภาพอากาศไม่เป็นใจเลย เพราะฝนตกตลอดติดกันมาหลายวัน จึงเป็นการทดสอบแบบ Wet Test ทำให้เราไม่สามารถหวดได้แบบจัดเต็มในครั้งนี้
ก่อนอื่นเลยเริ่มกันที่ท่านั่ง
ถ้าไม่สังเกตุจริงๆ ท่ามันคล้ายกับ R6 มากๆ เพราะตามสเป็ก แฮนด์ R7 สูงกว่า R6 อยู่นิดหน่อยเท่านั้น
ตำแหน่งพักเท้าอะไรก็ใกล้เคียงจนแทบจะเหมือนกัน
นอกจากนี้เบาะสูง 835 มม. ซึ่งดูสูงแต่ไม่เท่า R6 สำหรับผมยังใส่เรซซิ่งบู๊ทเหยียบได้เต็มเท้า สบาย เบาะไม่กว้างมาก
และพูดถึงความกว้าง Yamaha เคลมว่า R7 แคบสุดใน YZF-R Series ทุกตัว
นอกจากนี้ช่วงเบาะของเค้ายาวพอประมาณ ทำให้เวลาขี่หมอบทางตรงสามารถร่นก้นมาทางด้านหลังได้เยอะ ทำให้หมอบศอกหนีบถังผมไม่รู้สึกติดเข่า คือ ไม่รู้สึกเก้ๆ กังๆ
รวมถึงถังน้ำมัน 13 ลิตร ไม่ใหญ่เกินไป กับช่วง Grip Tank สำหรับผมรู้สึกกระชับดีเลย กับ Tank ของ YZF-R Series ในหลายรุ่น
ส่วนแฮนด์ Clip On ที่เตี้ยแทบเท่า SS600 แท้ๆ ถ้าขี่บนถนนใช้วงเลี้ยวเยอะๆ เลี้ยวทางแคบๆ ก็อาจจะมีติดข้อมือกันสักนิดนึง
เครื่องยนต์ 2สูบ CP2 689cc กำลัง 73.4 HP@8,750rpm ทอร์ค 67Nm@6,500rpm
ที่ยกพื้นฐานมาจาก MT-07 เครื่องนี้ เค้าดีงามจี๊ดจ๊าดเรื่องทอร์คที่ดีดจัดจ้านอยู่แล้ว R7 ทอร์คเยอะกว่า R6 ดังนั้นเวลาขี่แทร็กเปียกแบบนี้ การเดินคันเร่งต้องรอให้รถตั้งตรงถึงค่อยเปิดได้เต็ม เพราะต้องไม่ลืมว่ารถไม่มี TCS
ถ้าเอาใช้งานในเมือง หรือ ขี่แบบ Everyday Bike ผมว่า เครื่องบล็อกนี้ถือว่าตอบโจทย์ดีกว่า R6
แต่ก็ต้องเข้าใจว่าซุ่มเสียง มันไม่ได้หวานหูเหมือน 4สูบ รวมถึงการเค้นรอบของเค้าไม่ได้เน้นจัดจ้านเท่า อาจไม่เร้าใจ แต่ ขี่จริงเหมาะกว่า และประหยัดน้ำมันกว่าแน่นอน
นอกจากนั้นการที่ R7 อัพเกรดจาก MT-07 เพิ่มคือ ให้ Slipper Clutch เพิ่มมา จุดนี้ทำให้ เวลาลดเกียร์ลงสามารถคอนโทรลรถได้ดีขึ้นในสภาวะพื้นเปียกเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ดี ผมยังรู้สีกว่า เครื่อง CP2 นี้ Engine Brake ยังคงมีแรงดึงลงหนักๆ มากกว่า คู่แข่งของเขา ที่ Engine Brake เบามากๆ ดังนั้น สำหรับผมเอง ผมชอบแบบนี้ คือ ดึงหนักช่วยชะลอความเร็วได้ดีก่อนเข้าโค้ง แต่ก็ไม่สูญเสียการควบคุมที่ล้อหลังอีกด้วย
แต่จากที่ผมได้ขี่ใน Wet Track วันนี้ ผมเรียนตรงๆ ว่าไม่ได้ลากไปถึง Redline เพราะ ทอร์คเค้าเยอะอยู่แล้ว รวมถึงฝนตก ทำให้มองไม่เห็นทางข้างหน้า TopSpeed วันนี้ผมเลยได้อยู่ประมาณ 170 กม./ชม. เท่านั้น
ซึ่งมีจุดหนึ่งที่ผมเจอปัญหา ก็คือ จังหวะขึ้นเกียร์ 4->5 เข้าเกียร์ยากมาก ผมว่าว บ่อยครั้ง ถ้าไม่ได้ลากรอบเครื่องเข้าจนถึง Redline จะเข้าเกียร์ได้ยากมาก กับ Racing Boot
สำหรับเรื่อง Performance ตัวเลขอัตราเร่งไปจนถึง TopSpeed จริงบนถนน ถ้าทางทีมงานเรามีโอกาสจะนำมาทดสอบจัดเต็มกันให้อีกทีครับ
ระบบกันสะเทือน
โช้กหน้าหัวกลับ แกน 41 มม. ปรับได้แบบ Fully Adjust มีระยะยุบ 129.5 มม.เท่ากันหน้า-หลัง
โช้กหลังเดี่ยวลักษณะวางนอน ปรับพรีโหลดได้ 7 ระดับ และยังปรับ Rebound ได้ด้วย
STD เซ็ทมารู้สึกอยู่ที่ 5 ซึ่งจากภาพรวมมันดูแข็งกว่า MT-07
แต่สำหรับผม มันเหมาะกับ R7 มากๆ คือ ไม่แข็งเท่า R6 ที่เป็น Replica แท้ๆ แต่ผมก็ขี่ใช้จริงได้อย่างเหมาะสม ทั้ง On-Road ที่เน้นขี่แบบ Sport ได้ดีกว่า MT และ จะ On Track ก็ขี่ได้สนุก ไม่แพ้ R6
นอกจากนี้ตัวยางก็อัพเกรดมาใช้แบบตัว MT-09 เป็น Batlax Series ซึ่ง Grip ถือว่าดีมากเลยกับการขี่ในสนาม และขี่แบบ Wet Track ที่ตกลงหนักประมาณนึง เช่นนี้ ผมว่ายังเอาอยู่ขี่ได้ไม่ถึงกับต้องคลาน ยังเข้าโค้งได้มั่นใจ
ระบบเบรก
ด้านหน้าดิสก์คู่ 298มม. จับคู่ปั๊มเรเดียล 4pot ตราดาว ในแบบเดียวกับ R6
ส่วนปั๊มบน เป็น Brembo สบายหายห่วงเลย กดนิดเดียวอยู่ตามสไตล์ของ Yamaha เค้าอยู่แล้ว
อย่างที่บอกผมขี่ Wet Track คือ นิ้วเดียวก็เพียงพอ แล้ว แตะนิดๆ จับจึกเอาอยู่สบายๆ ไม่ต้องมาไล่บีบกดลง นน. กันให้เยอะ
แม้อาจไม่ได้หวดแบบจัดเต็ม เพราะฟ้าฝนไม่เป็นใจ แต่ก็ทำให้ผมพอได้ฟีลลิ่งในระดับนึง
สรุป รีวิว YZF-R7 สัมผัสแรกในสนามช้างฯ
ถ้าคุณอยากหา รถทรง Sport Replica หล่อๆ สักคัน ขี่ใช้บนถนนได้จริง R7 คันนี้ครับ เวิร์คเลย
เหมาะกว่า R6 แน่นอน ทั้งเรื่องเครื่องยนต์ อัตราสิ้นเปลือง การดูแลรักษาต่างๆ และด้านราคา
ขี่สนามก็ต้องบอกว่าขี่ได้สนุกเหมือนกัน แม้อาจะไม่เร้าใจเท่า 4สูบ แต่ ต้นนี่ CP2 ขึ้นชื่ออยู่แล้ว
แต่อาจเสียดายนิดตรงที่ไม่มี Quick Shift เพราะเป็นออปชั่น และติดได้แค่ Up เพราะเป็นคันเร่งสาย ซึ่งก็จะไม่มี ระบบเทคโนโลยี อย่าง Ride Mode และ TCS มาให้ ดังนั้น ขี่ฝนเปียกๆ ก็ระวังคันเร่งกันสักนิด
ราคา YZF-R7 3.39 แสนบาท มี 2 สีน้ำเงิน และดำ
ซึ่งถ้าเพื่อนๆ สนใจไปรับชมตัวจริงได้เลยที่ YRC ทั่วประเทศ
อ่านรีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่