โรยัล เอ็นฟีลด์ ผู้นำระดับโลกด้านรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250cc-750cc) เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริการหลังการขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมทั้งริเริ่มโครงการใหม่เพื่อมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ราบรื่นและน่าประทับใจยิ่งขึ้น
ล่าสุด Royal Enfield ได้เปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมเฉพาะทางแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ ศูนย์ฝึกอบรม “POWERTRAIN” นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการฝึกอบรมเชิงเทคนิคในห้องเรียน โดยเน้นไปที่ทีมช่างเทคนิคจากดีลเลอร์ รวมถึงที่ปรึกษาการบริการ ผู้จัดการฝ่ายบริการ ผู้จัดการรับประกันและอะไหล่ ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ และผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด อีกทั้งยังมีการฝึกอบรมภาคปฏิบัติที่ครบครันด้วยรถจักรยานยนต์รุ่นปัจจุบันและเครื่องยนต์เฉพาะรุ่นสำหรับการฝึกใช้งานจริง



นอกจากการฝึกอบรมเชิงเทคนิคแล้ว ศูนย์ฝึกอบรม POWERTRAIN ยังมีระบบการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS) ซึ่งเป็นเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยในการฝึกอบรมออนไลน์และการสนับสนุนการประเมินรถตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันทั้งปี มากไปกว่านั้นศูนย์แห่งนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับการฝึกอบรมด้านการขายและการตลาดให้กับดีลเลอร์และพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย
ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติงานที่เป็นเลิศของโรยัล เอ็นฟีลด์ และเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับช่างเทคนิคจากดีลเลอร์ โดยโรยัล เอ็นฟีลด์ได้จัดโครงการ Supersquad สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นการแข่งขันทักษะประจำปีในหมู่ช่างเทคนิคจากดีลเลอร์ทั่วภูมิภาค เพื่อทดสอบความสามารถด้านเทคนิค การแก้ไขปัญหา และการประเมินสภาพรถ โดยมีช่างเทคนิคจำนวน 314 คนจาก 11 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน และผู้ชนะในแต่ละประเทศจะเข้าร่วมแข่งขันในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ศูนย์ฝึกอบรม POWERTRAIN ณ ประเทศไทย
โครงการ Supersquad ได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการยกระดับความสามารถทางเทคนิคและมาตรฐานการดำเนินงาน โดยการให้โอกาสแก่เหล่าช่างเทคนิคในการแสดงความเชี่ยวชาญของตน งานนี้ได้เสริมสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่น และความภักดีในกลุ่มลูกค้าทั่วโลกของโรยัล เอ็นฟีลด์ นอกจากนี้ ผู้ชนะและรองชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลและของที่ระลึก เพื่อเฉลิมฉลองการมีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์
การแข่งขัน Supersquad 2025 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์ของโรยัล เอ็นฟีลด์ที่มุ่งมั่นในการเสริมพลังให้กับทีมงานบริการ และการกำหนดมาตรฐานใหม่ในความเป็นเลิศทางเทคนิค โดยการรวมผู้เข้าร่วมจากหลากหลายภูมิภาคและส่งเสริมการเติบโตในวิชาชีพ กิจกรรมนี้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการมอบมาตรฐานการบริการที่ไม่มีใครเทียบได้
โรยัล เอ็นฟีลด์ขอแสดงความยินดีแก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน รวมถึงผู้ชนะและรองชนะเลิศสำหรับความสำเร็จอันยอดเยี่ยมใน Supersquad 2025 ความมุ่งมั่นและทักษะของพวกเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจและยกระดับตำนานความเป็นเลิศของโรยัล เอ็นฟีลด์
Supersquad 2025 เป็นเวทีกำหนดมาตรฐานการบริการที่เป็นเลิศและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของโรยัล เอ็นฟีลด์ โดยส่งเสริมแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด ช่วยเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้กับดีลเลอร์และผู้จัดจำหน่าย ส่งต่อความไว้วางใจและความพึงพอใจของลูกค้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผู้เข้าร่วมยังได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการบริการขั้นสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างศักยภาพการบริการที่มีประสิทธิภาพ ยืนยันความเป็นผู้นำของโรยัล เอ็นฟีลด์ในอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม
โดยล่าสุด ช่างเทคนิคจากเกาหลีใต้ได้รับตำแหน่งชนะเลิศในระดับเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ช่างเทคนิคจากประเทศไทยได้รับรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ทั้งสองท่านจะเป็นตัวแทนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการแข่งขัน Supersquad 2025 ระดับโลกที่ประเทศอินเดียในอนาคต โครงการนี้มุ่งเน้นในการส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่ “First Time Right” และ “Reasonable Service Time” ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของโรยัล เอ็นฟีลด์ในการมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า และสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งในตลาดหลักทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเพิ่มการเข้าถึงให้ดียิ่งขึ้น
อ่านข่าว Royal Enfield เพิ่มเติมได้ที่นี่