แม้จะเผยโฉมในบ้านเราตั้งแต่ปลายปีก่อน พอผ่านมาช่วงต้นปีก็ยังมีแค่การจัดแสดงพร้อมระบุข้อมูลว่ารถยังต้องรอการปรับปรุงระบบบำบัดไอเสียให้เข้ากับมาตรฐานบ้านเรา แต่มาตอนนี้ เหลืออีกแค่เพียง 3 สัปดาห์ก็จะถึงเวลาของงาน Motor Expo 2019 กันแล้ว เจ้า Suzuki Burgman 400 ก็ได้ฤกษ์จะเปิดรับจองเสียที ซึ่งก่อนจะถึงเวลานั้น เรามาทวนสเปคของมันกันหน่อยดีกว่าครับ
โดยสำหรับแนวทางการสร้าง Burgman 400 ทาง Suzuki ได้ระบุว่ามันถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Burgman Coupe ที่มีควาสง่างาม ดูหรูหรา อีกทั้งให้การขับขี่ที่สะดวกสบาย ประกอบกับรูปทรงที่ปราดเปรียว และเพรียวบางตั้งแต่หน้าจรดท้าย
ชุดโคมไฟหน้าคู่แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟหรี่แบบ LED ให้เส้นสายที่ปราดเปรียวมากยิ่งขึ้นยิ่งกว่า Burgman รุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ในฝั่งชิลด์หน้าก็ดีไซน์ตามหลักสรีระศาสตร์ สามารถป้องกันลม แมลงและสิ่งแปลกปลอมได้เป็นอย่างดี
ส่วนไฟท้ายออกแบบใหม่ให้ดูเพรียวบางและดูเฉียบคม ส่องสว่างชัดเจน
ชุดหน้าปัดขนาดใหญ่แสดงผลแบบอนาล็อกผสานจอ LCD เห็นได้ชัดเจน
มีพอร์ทชาร์จไฟ 12 โวลต์มาให้ และเสริมระบบ Rear Brake Lock System เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน
ขณะที่กล่องเก็บของใต้เบาะมีขนาดใหญ่ถึง 42 ลิตร สามารถใส่หมวกกันน็อคได้ 2 ใบ
ด้านขุมกำลังเป็นเครื่องยนต์สูบเดียวขนาด 400cc DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำพร้อมให้แรงบิดที่ดีตั้งแต่รอบความเร็วต่ำถึงกลางเป็นเยี่ยม พร้อมผลักดันตัวรถที่หนัก 215 กิโลกรัม ด้วยแรงม้าสูงสุด 31 PS ที่ 6,300 รอบ/นาที พร้อมติดตั้งระบบ Suzuki’s Automatic Idle Speed Control (ISC) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะอุณหภูมิต่ำ และผ่านมาตรฐานค่าไอเสียระดับ Euro 4
ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic และระบบกันสะเทือนหลังแบบ Link Type Monoshock ที่สามารถปรับค่าพรีโหลดได้ถึง 7 ระดับ สามารถรองรับการสั่นสะเทือนได้นุ่มนวล เพื่อให้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในการทรงตัว
ชุดล้อเป็นแบบอลูมินัมอัลลอยด์ รัดด้วยยางไซส์ 120/70-15 ด้านหน้า และ 150/70-13 ด้านหลัง ส่วนระบบเบรกก็ถือว่าจัดเต็มเพราะใช้แบบจานเบรกคู่ด้านหน้า ทำงานร่วมกับปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 2 พอร์ท ด้านหลังดิสก์เดี่ยวทำงานร่วมกับปั๊มโฟลทติ้งเมาท์สูบเดียว มีระบบ ABS มาให้ แต่ยังไม่มีระบบ Traction Control
ไม่เพียงเท่านั้น แม้ตอนนี้ทาง Suzuki Thailand จะยังไม่ได้ระบุไว้ว่าราคาของ Burgman 400 จะอยู่ที่เท่าไหร่ แต่หากอิงจากข้อมูลที่กำลังถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ขณะนี้ ที่ว่ามันมีราคาขายอยู่ในช่วง 19x,xxx บาท ซึ่งอาจจะสูงกว่าบิ๊กสกูตเตอร์ในช่วงพิกัดไล่เลี่ยกันไปบ้าง แต่ด้วยความจุเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า, เบรกหน้าแบบดิสก์คู่, โช้กหลังแบบมีกระเดื่องทดแรง และเป็นโมเดลนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน(Made In Japan) ดังนั้นจึงถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจไม่น้อย ทว่ามันจะเป็นเช่นั้นหรือไม่ อีก 3 สัปดาห์ มารอติดตามไปพร้อมกันครับ
อ่านข่าว Suzuki เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ