Triumph Speed T4 รถมอเตอร์ไซค์เรโทรน้องเล็กรุ่นใหม่จากค่ายผู้ดี Triumph ได้ทำการเปิดตัวออกมาแบบหลุดโผทุกสำนัก หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายต่างก็คาดเดากันว่ารถในตระกูล TR series รุ่นใหม่ของพวกเขาจะเป็นรถในสไตล์อื่นที่ไม่ซ้ำเดิม แต่กลายเป็นว่ารถที่เปิดตัวออกมาจริงนั้นเป็นเหมือนกับ Speed 400 ที่ทำการลดสเปครอบคันลง เพื่อให้ทำค่าตัวได้ถูกลงแทน
Triumph Speed T4 รุ่นใหม่ที่ทุกคนเห็นอยู่นั้นยังคงถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับรถ Roadster อย่าง Speed 400 ที่ทำการเปิดตัวออกมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว โดยจะยังคงมาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกโดยรวมที่ไม่แตกต่างออกไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นชุดเฟรม หรือเครื่องยนต์ในตระกูล TR series ที่ยังคงมีปริมาตรกระบอกสูบ 398 ซีซี แต่พละกำลังนั้นจะถูกลดลงมาให้เหลือแค่ 31 PS ที่ 7,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 36 Nm ที่ 5,000 รอบต่อนาที ซึ่งของเดิมจะอยู่ที่ 40 PS และ 37.5 Nm
และทำการลดสเปครอบคันลงพอประมาณเพื่อให้สามารถทำตลาดได้ด้วยค่าตัวที่ถูกลงเช่น ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบหัวกลับ ถูกเปลี่ยนเป็นแบบหัวตั้ง ขนาดแกน 43 มิลลิเมตร ระยะยุบ 140 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบสปริงเดี่ยวพร้อมกระปุกก๊าซ ปรับค่าพรีโหลดได้ ระยะยุบ 120 มิลลิเมตร
ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์เดี่ยว ขนาดจาน 300 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แอ็กเซียลเม้าท์ จาก Bybre ลดลงจากของเดิมที่เป็นแบบเรเดียลเม้าท์ ด้านหลังแบบดิสก์เดี่ยวขนาดจาน 230 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แอ็กเซียลเม้าท์เช่นเดิม ชุดล้ออัลลอยด์รัดด้วยยางขนาด 110/70-17 และ 140/70-17 ซึ่งถือว่ายางหลังมีขนาดลดลงไซส์นึง
ระบบไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED, หน้าจอแสดงผลแบบเข็มผสมดิจิตอล LCD, ยังคงมาพร้อมระบบ ABS และ TCS เช่นเดิม, กระจกมองข้างถูกย้ายจากปลายแฮนด์ มาอยู่ในตำแหน่งปกติ, ขนาดถังน้ำมัน 13 ลิตร, ความสูงเบาะนั่ง 806 มิลลเมตร สูงขึ้นจากเดิม 790 มิลลิเมตร ทางด้านของน้ำหนักรถก็เพิ่มขึ้นเป็น 180 กิโลกรัม จากเดิมที่ 176 กิโลกรัม
Triumph Speed T4 มาพร้อมสีให้เลือก 3 สี คือ ขาว, แดง, ดำ โดยชิ้นส่วนโลหะขัดเงาหลายจุดรอบคันถูกเปลี่ยนเป็นสีดำด้าน หรือไม่ก็เปลี่ยนวัสดุและชิ้นงานไปเลย จนทำให้ค่าตัวของมันในประเทศอินเดียอยู่ที่ประมาณ 86,500 บาท เมื่อเทียบกับ Speed 400 รุ่นปกติที่ขายคู่กันด้วยค่าตัวประมาณ 95,000 บาท ก็จะถือว่าถูกกว่าแค่เพียงเล็กน้อย ซึ่งเราคาดว่ารถรุ่นลดสเปคนั้นจะวางจำหน่ายแค่ในโซนเอเชียใต้เท่านั้น และคงไม่ได้เอามาวางจำหน่ายในประเทศไทย
อ่านข่าวสาร Triumph เพิ่มเติมได้ที่นี่
