ยาง และ เบรก อาจต้องมีกฎหมายควบคุมมิลพิษในอนาคต

0

ในยุคสมัยที่มีกฎหมายควบคุม และข้อกำหนดมาตราฐานไอเสียในเครื่องยนต์สันดาปนั้นพุ่งสูงขึ้น จนทำให้ค่าไอ้เสียที่ปล่อยโดยรถยุคใหม่นั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของรถในสมัยที่เรายังเป็นเด็ก หรือแม้แต่ข้อกำหนดเรื่องมลพิษทางเสียงที่เข้มงวดมากขึ้นตามกันไป จนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เครื่องยนต์แบบเก่า ค่ายรถหลายค่ายก็ถึงกับเตรียมย้ายตลาด ไปเป็นสายพลังงานสะอาด EV ไร้มลพิษกันมากขึ้น จนเราลืมไปว่ามันไม่ได้มีแค่เครื่องยนต์ที่เผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้นที่สร้างมลพิษระหว่างใช้งาน

Bridgestone AT41

จากรายงานชิ้นหนึ่งที่มีชื่อว่า Tyres Not Tailpipe พบว่านอกจากมลพิษที่ปล่อยออกมาจากท่อไอเสียของรถที่ค่อย ๆ ถูกกฎหมายมลพิษในยุคใหม่ ควบคุมให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มันก็ยังมีมลพิษที่ถูกสร้างจากส่วนอื่นของรถที่ถูกปล่อยออกมาในเวลาเดียวกัน แต่กลับไม่มีการควบคุมในทางกฎหมายเลย ซึ่งนั่นคือมลพิษที่เกิดจาก “ยาง” และ “เบรก” ที่ถูกปล่อยขึ้นสู่อากาศผ่านการใช้งาน

ยาง และ เบรก เป็นชิ้นส่วนประเภทนึงที่จะเกิดการสึกหรอตามการใช้งานอยู่แล้ว โดยการสึกหรอของชิ้นส่วนเหล่านั้นจะหลุดออกมาแล้วล่องลอยไปในอากาศ เนื่องจากมีน้ำหนักเบา เพราะเป็นอนุภาคขนาดเล็ก แน่นอนว่าอนุภาคแปลกปลอมเหล่านี้สามารถย้อนกลับเข้ามาสู่ร่างกายมนุษย์ ผ่านการหายใจ หรือการปนเปื้อนกับอาหาร

ซึ่งก็เป็นเวลานานมากแล้วที่หลายฝ่ายต่างก็ไปจดจ่ออยู่กับค่อมลพิษที่ปล่อยจากท่อไอเสีย แต่กลับลืมของเสียที่เกิดจากอุปกรณ์เหล่านี้ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคไฟฟ้าก็ไม่ได้มีส่วนช่วยให้ปัญหานี้ถูกแก้เช่นกัน เพราะรถทุกประเภทนั้นยังคงยางและเบรกแบบเดียวกัน หนำซ้ำน้ำหนักที่มากของรถไฟฟ้ายังมีส่วนทำให้ปัญหาเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นไปอีก เพราะจะทำให้ยางและเบรกเกิดการสึกหรอมากขึ้น และมีอายุการใช้งานที่สั้นลง

Honda ADV350

หลังจากที่รัฐบาลทั่วโลกกำลังพยายามออกมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศ รวมถึงมลพิษทางเสียงให้กับรถรุ่นใหม่ที่เข้มงวดขึ้น ทำให้เราจะไม่รู้สึกแปลกในเท่าไร หากในอนาคตอันใกล้มีการออกกฎหมายสิ่งแวดล้อม จากกลุ่มประเทศยุโรป ที่ระบุข้อกำหนดการควบคุมมาตราฐานของยางและเบรก หรือชิ้นส่วนประเภทอื่นในรถยนต์และจักรยานยนต์ ก่อนที่ประทศอื่นจะนำมาปรับใช้ในเวลาต่อไป

อ่านข่าวสารมอเตอร์ไซค์ใหม่ล่าสุดได้ที่นี่

Share.

About Author

error: Content is protected !!