หลังจากที่ Yamaha SR400 Final Edition ได้ทำการเปิดตัวไปอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ที่งาน Bangkok International Motor Show 2025 พวกเราก็มีเรื่องอยากจะชวนทุกคนมาคิดตามกันเล่น ๆ ว่าหลังจากนี้ไป รถมอเตอร์ไซค์เรโทรคลาสเล็กจากค่ายส้อมเสียงจะมีอนาคตเป็นแบบไหน?
แต่ก่อนจะไปกันต่อ เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะมีคำถามคาใจกันมากพอสมควรว่า “ตกลงนี่มันคือ Final จริงใช่ไหม?” เพราะก่อนหน้านี้เมื่อไม่กี่ปีก่อน พวกเราน่าจะได้เห็นรถรุ่นนี้ในรุ่น Final Edition กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่รถรุ่นส่งท้ายที่เราได้เห็นไปก่อนหน้านี้มันคือ Final Edition ที่ทำการเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำการประกาศยกเลิกการจำหน่ายไปก่อนบ้านเรา เนื่องจากข้อกำหนดด้านมลพิษ
ถึงอย่างนั้น Yamaha SR400 ในบ้านเรากลับยังสามารถจำหน่ายต่อไปได้ เนื่องจากมีกฎหมายและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน แต่รถร่าง Final Edition ที่เราได้เห็นกันในครั้งนี้ จึงเป็นรถรุ่นส่งท้ายสำหรับตลาดบ้านเรานั่นเอง (แต่เราก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีรุ่นพิเศษอะไรตามมาอีกไหม)
คำถามคือหลังจากนี้ Yamaha จะเอายังไงต่อกับ SR400 พวกเราจะได้เห็นรถโบราณสตาร์ทตีนแบบมันโผล่มาอีกหรือเปล่า ในเมื่อการปลุกผีรถเก่าให้กลับมาอีกครั้ง เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในยุคนี้ เราจะได้เห็นตัวตายตัวแทนรุ่นใหม่ของมันในอนาคตหรือไม่?
ซึ่งเราก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับสายคลาสสิกเดนตาย ที่การถีบรถของตัวเองในตอนเช้าคือวีธีเดินทางไปทำงานแบบเดียวที่รู้จัก เพราะพวกเราคงจะไม่ได้เห็นรถคลาสสิกแบบนี้อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ ต่อให้เป็นสายคลาสสิกอนุรักษ์นิยมก็ตาม ก็คงไม่ได้ต้องการรถที่เก่าจริงแบบ SR400
ผู้ใช้ส่วนใหญ่ต่างก็ต้องการความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการใช้งาน ระบบสตาร์ทไฟฟ้า ดิสก์เบรก ระบบป้องกันล้อล็อค หรืออย่างน้อยก็เข็มบอกปริมาณเชื้อเพลิง ต่างก็เป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่คาดหวัง เพราะต่อให้เราไม่พูดถึงรถอย่าง Triumph ที่เป็นสายโมเดิร์นคลาสสิกที่ได้รับความนิยมอย่างสูง รถสายเรโทรจริงจังอย่าง Royal Enfield ต่างก็ให้ทุกอย่างที่เราว่ามากันหมดแล้ว
ถ้าจะให้สรุปคือ ผู้คนส่วนใหญ่แค่ต้องการรถที่ดูเก่า แต่ถูกสร้างบนหลักวิศวกรรมที่ทันสมัย ไม่ใช่รถที่เก่าจริง เราจึงได้เห็นรถไฟกลมหลายรุ่นในยุคนี้ ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของรถยุคใหม่ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Yamaha SR400 นั้นถึงแม้จะมีคนสนใจในวงแคบ แต่ก็มีที่ทางของตัวเองบนโลกนี้ที่แข็งแกร่งมาก เพราะในเมื่อค่ายอื่นไม่สนใจตลาดตรงนี้ ค่ายส้อมเสียงจึงกลายเป็นผู้เล่นรายเดียวที่ผู้ขาดตลาดคลาสสิกเลือดแท้
เรียกได้ว่าถ้าต้องการพัฒนารถใหม่ขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยีเก่า สุดท้ายรถคันนั้นก็จะไม่สามารถจำหน่สยทั่วโลกได้ เนื่องจากติดข้อกฏหมายแบบเดียวกับรุ่นปัจจุบันอยู่ดี ถ้าจะจำหน่ายแค่ในไทยอย่างเดียวก็คงไม่คุ้ม ทางเดียวที่จะไปต่อได้คือการทำรถร่วมสมัยอย่าง XSR700 หรือ XSR155 หรือไม่ก็ทำรถที่หลายคนรอคอย แต่ไม่มาสักทีอย่าง XSR300
แต่พวกเราก็รู้กันดีว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่แฟนคลับของ Yamaha SR400 เลือกใช้รถรุ่นนี้แต่แรก ทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการรอให้ค่ายส้อมเสียง ทำตามแบบของ Royal Enfield คือใช้เทคโนโลยีใหม่ หรืออย่างน้อยก็เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยใหม่พอที่จะผ่านข้อกำหนดทางกฎหมาย แต่ทำรถหน้าเก่า ซึ่งก็ดูเหมือนว่าแนวทางของพวกเขาในปัจจุบันจะไม่ใช่แบบนี้สักเท่าไร
อ่านข่าวสาร Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่
