Yamaha Y-AMT ระบบตัวช่วยในการเปลี่ยนเกียร์รุ่นใหม่ล่าสุด จากค่ายส้อมเสียง Yamaha ได้ถูกเปิดตัวแบบสด ๆ ร้อน ๆ พร้อมเป้าหมายในการเป็นคู่แข่งกับระบบที่คล้ายกันอย่าง Honda E-Clutch ซึ่งเราก็ได้อธิบายหลักการทำงานพื้นฐานของมันไปเรียบร้อยแล้วในบทความก่อนหน้านี้ โดยวันนี้เราจะมาอธิบายเพิ่มเติมว่าระบบที่ว่านี้ของค่ายส้อมเสียง มีความแตกต่างกับของค่ายปีกนกตรงไหนบ้าง
เริ่มกันที่ระบบที่เปิดตัวมาก่อนอย่าง Honda E-Clutch ที่จะเป็นชุดควบคุมการกำและปล่อยคลัทช์ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบที่ว่านี้จะทำการติดตั้งขั้นตรงกลางระหว่างชุดคลัทช์ และสายคลัทช์ที่ผู้ขี่ควบคุมผ่านก้านคลัทช์ที่มือซ้ายอีกที เมื่อผู้ใช้ทำการเปลี่ยนเกียร์ที่เท้าซ้าย E-Clutch จะจำลองการกำและปล่อยคลัทช์แทนเราในจังหวะที่ลื่นไหลที่สุดที่เป็นไปได้
แปลว่าผู้ใช้สามารถขับขี่รถ เปลี่ยนเกียร์ จอดหรือออกตัวได้โดยไม่จำเป็นต้องกำก้านคลัทช์เลย โดยที่รถของเรายังคงมีก้านคลัทช์ที่มือซ้าย และคันเกียร์ที่เท้าซ้ายติดตั้งมาให้เหมือนเดิม ซึ่งผู้ใช้ยังสามารถเข้าควบคุมคลัทช์ด้วยตัวเองตอนไหนก็ได้ รวมถึงสามารถเปิด-ปิดระบบ E-Clutch ได้ในกรณีที่ต้องการควบคุมคลัทช์ด้วยตัวเองตลอดการขับขี่
ทางด้านของระบบ Yamaha Y-AMT นั้นจะมีการใช้งานระบบควบคุมคลัทช์แบบเดียวกับ Honda E-Clutch ทุกอย่าง แต่จะทำการเพิ่มระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์เข้ามาเสริม ซึ่งก็ตามชื่อ คือระบบในส่วนนี้จะทำการเปลี่ยนเกียร์ทั้งขึ้นและลงด้วยระบบไฟฟ้า เมื่อผู้ใช้สั่งงานผ่านปุ่ม + และ – บนประกับแฮนด์ด้านซ้าย แน่นอนว่าในจังหวะที่มีการเปลี่ยนเกียร์นั้น ระบบฝั่งที่ควบคุมคลัทช์ก็จะทำงานประสานกันไปด้วย
ในฝั่งของ Y-AMT รถของเราจะไม่มีก้านคลัทช์และคันเกียร์ติดตั้งมาให้อีกต่อไป แปลว่าจะไม่มีการกำคลัทช์เล่นแบบกรณีของ E-Clutch อีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้การทำงานทั้งระบบจะถูกสั่งงานด้วยไฟฟ้าแทน จะเหลือก็แค่ปุ่ม + และ – ที่ใช้ในการเลือกเกียร์โดยผู้ใช้เท่านั้น
แต่ด้วยความที่ตอนนี้รถของเราสามารถควบคุมการเปลี่ยนเกียร์และกำคลัทช์ได้เองทั้งหมด แปลว่ามันจะรองรับการขับขี่แบบออโตเมติกเต็มรูปแบบด้วยเช่นกัน ซึ่งเราก็สามารถเลือกได้ว่าจะขับขี่แบบเลือกเกียร์เองด้วยโหมด MT หรือจะปล่อยให้เป็นเกียร์อัตโนมัติเต็มรูปแบบด้วยโหมด AT นอกจากนี้ในโหมดเกียร์อัตโนมัติ เรายังเลือกได้ว่าจะให้รถทำการเปลี่ยนเกียร์แบบสปอร์ตหรือแบบนุ่มนวลได้อีกด้วย
โดยสรุปคือระบบ Y-AMT ของค่ายส้อมเสียงนั้นจะมีความซับซ้อนมากกว่า และสามารถใช้งานแบบรถมอเตอร์ไซค์ออโตเมติกได้เต็มรูปแบบ แต่ด้วยความซับซ้อนที่ว่านี้ก็ทำให้มันมีน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย และผู้ใช้ไม่สามารถเข้ามาแทรกแทรงการทำงานของระบบแบบตามใจได้เท่ากับ E-Clutch คือไม่สามารถปิดระบบเพื่อเปลี่ยนมาใช้งานแบบรถมอเตอร์ไซค์คลัทช์ตามปกติได้
อ่านข่าวสาร Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
