รีวิว GPX Demon GR200R งามสุดตั้งแต่รถแบรนด์ไทย โกอินเตอร์ เคยทำมา ขี่ดีเกินราคาค่าตัว

เรียกได่ว่า เป็นรถที่ได้รับการตอบอย่างล้นหลาม กับ New GPX Demon GR200R ที่มาเปิดตัวเอาในช่วง COVID-19
แต่ สถานการณ์เหล่านี้ กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อยอดขายของมันเลย แค่ 20 วัน คนซื้อไปแล้วทะลุ สองพันคัน
ทางทีมงาน MotoRival เราขอมา รีวิว GPX Demon GR200R สปอร์ตโฉมงาม ที่สุดตั้งแต่ที่แบรนด์ไทยโกอินเตอร์ แบรนด์นี้เคยทำมาให้เพื่อนๆ รับชมกันเลยดีกว่าครับ

ย้อนกลับไปหลายปีก่อนที่ผมได้เคยสัมภาษณ์ ทางคุณอ๊อฟ ไชยยศ ร่วมใจพัฒนกุล ผู้บริหาร GPX ได้เปิดเผยกับเราว่า
มีแผนจะทำตลาดในกลุ่มรถ Sport Entry Bike แต่เป็นแผนระยะกลาง ซึ่งในหลายปีมานี้ เราก็มักจะเห็น แต่ตระกูล Demon ในพิกัด 150cc เท่านั้น

และในครั้งนี้ ทางแบรนด์ ก็ไม่ทำให้พวกเราผิดหวังแล้ว ด้วยการผลิตรถ Sport Bike ที่เป็นล้อ 17″ ตัวเต็มออกมาเสียที มาพร้อมกับพิกัดใหม่ ใหญ่สุดในตระกูล Demon (ในรีวิว นี้เราขอไม่พูดถึงรายละเอียดรูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถซ้ำ เพื่อนๆ สามารถอ่าน รายละเอียดตัวรถได้ที่นี่ครับ)

– ด้วยเครื่องยนต์ ความจุ 200cc (พิกัดจริง 198cc) เป็นเครื่อง 2 วาล์ว Single Over Head Camshaft (SOHC) จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด (GPX-Fi) มาพร้อมหม้อน้ำ
และ ให้กำลังสูงสุด 17.4 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิด 17.2 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที

เอาล่ะ แล้วขี่จริง มันเป็นยังไง เห็นหลายคนต่างวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ว่าโดน 150cc ไม่รอดหรอก นู่นนี่นั่น

ต้องบอกว่าถ้าตีนต้น เนี่ย สำหรับผมประทับใจเลยนะ มันดีกว่าที่คิด คือ เปิดคันเร่งช่วงต้น สู้กับรถ DOHC 150cc ได้เลย
ด้วยพิกัดเครื่องยนต์ ที่ให้แรงบิดที่ ok รวมไปถึงสไตล์ของเครื่อง ทำให้มันขี่ตีนต้น ถือว่าสนุก ทำได้ดีทีเดียว สายชอบลาก ก็สามารถรีดรอบเครื่องไปได้สูงจนถึงหมื่นกว่ารอบ เรียกว่าชนเร้ดไลน์กันได้เลย

ด้านความเร็วช่วงปลาย ก็ต้องบอกว่า มันอาจจะไม่ได้หรูหรา อะไรนัก ก็ตามที่ผมได้บอกไป มันเป็น 2 วาล์ว แคมเดี่ยว ขี่เอาต้น-กลาง บิดสนุกๆ ในเมืองดีกว่า
แต่ก็ใช่ว่า ขี่ออกทริป ใช้ความเร็วเร่งแซงไม่ได้ เพราะในช่วงความเร็วเดินทาง 110-120 ช่วงนี่ ยังพอมีย่านกำลังเหลือ ให้เราพอเร่งแซงใช้งานได้อยู่

ส่วนตัวเลขที่เราทำได้สูงสุด ก็ 144 ตามหน้าปัด ดูคลิปการทดสอบได้โดยทีม MotoRival ตามลิงค์นี้เลยครับ

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ผมประทับใจมากๆ และขอบคุณ GPX ที่ปรับปรุงแก้ไข นั่นก็คือการเข้าเกียร์ ขอให้เพื่อนๆ ลบภาพ GPX Demon 150 เดิม ไปให้หมด
คือ เข้าเกียร์ก็ยาก เกียร์แข็งมาก จนผมมีอาการปวดเท้าเลย เวลาต้องงัดเกียร์บ่อยๆ จนรู้สึกไม่อยากขี่ แต่เราไม่พบอาการเหล่านั้นใน GR200R มันนิ่มเข้าเกียร์ง่าย

ประเด็นอัตราสิ้นเปลือง เอาขี่แบบโหดๆ เลยซัดอย่างเดียวเน้นสมรรถนะ เราได้ตัวเลข ยี่สิบต้นๆ
แต่ถ้าขี่แบบคนปกติ ทั่วไป ตามการเดินทางไกลใช้ความเร็วคงที่ ผมว่า ต้องมีช่วง 20 ปลาย ไปถึง 30 ต้นๆ
ส่วน Eco Sticker ที่เคลมไว้ ระดับ สี่สิบ กว่าอันนี้ผมว่า น่าจะเห็นยาก เสียหน่อย

ออลืมบอกไปครับ ท่อไอเสีย ทรงนี้ ต้องบอกว่าน่าฟัง เพราะมันดูแน่น และไม่ได้ดู ก๊องแก๊ง เหมือนกับรถบางแบรนด์ในพิกัดระดับนี้

– ระบบเบรก ยังให้ความไว้ใจได้ดีเช่นเดิม ด้วยจานดิสก์เบรก ทั้งหน้า-หลัง ซึ่งเป็นใบแบบ Wavy Disc

จานหน้าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 276 มิลลิเมตร ใช้ปั๊ม 2 Pot สีแดง

จานหลังขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 220 มิลลิเมตร ปั๊ม 1 Pot สีแดงเหมือนกัน

ไม่มีระบบ ABS ซึ่งส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยชอบการทำงานของ ABS เพราะว่ามันทำให้เรากะระยะเบรกเพี้ยนไปหน่อย ต้องเผื่อระยะให้มากขึ้น เบรกลึก ไม่ค่อยได้ รวมไปถึงช่วยประหยัดต้นทุนของตัวรถด้วย นอกจากนี้ ใครที่อยากไปเปลี่ยนแต่งระบบเบรก อย่างเปลี่ยนสายถัก ก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับการต่อผ่านกล่อง ABS

ภาพรวมเบรกของ Demon GR200R ผมว่าสอบผ่าน ยังเอาอยู่กับสมรรถนะรถที่มีมาให้

โช้กอัพ ด้านหน้ายังคงตระกูล Demon เอาไว้ คือ เป็นโช้กหัวกลับ โดยตกแต่งด้วยสีน้ำตาลไหม้

ส่วนโช้กหลังก็เป็นโช้กเดี่ยวปรับความแข็งสปริงได้ 7 ระดับ ของแบรนด์ วายเอสเอส สปริงแดง อันเป็นเอกลักษณ์

ภาพรวมการใช้งาน ช่วงล่างคันนี้ ออกมาทางสปอร์ต ตามสไตล์รถ ดูติดแข็งกระด้างไปบ้าง กับถนนเมืองไทย แต่ถ้าไปขี่ความเร็วสูงๆ ถือว่า เฟิร์ม รวมไปถึงการเทโค้ง เข้าโค้ง ทำได้กระชับ ไม่มีอาการโยน ออกมา แม้ผู้ทดสอบจะมี น้ำหนักตัวมาก ก็ยังสามารถปรับค่าความแข็งสปริงพรีโหลด ช่วยเอาได้

– มาต่อกันที่สรีระในการขับขี่

เริ่มตั้งแต่เตะขาตั้งขึ้นคร่อมรถ ผมว่าขาตั้งมันยาวไปนะ ดังนั้นเวลาจะจอดรถควรดูระดับพื้นให้ดี เพราะไม่งั้น ถ้ารถตั้งตรงเกินไป โอกาสล้มพับมีสูงมากๆ จุดนี้ต้องระวัง หรือแก้โดยการไปเปลี่ยนขาตั้งให้สั้นลง หรือ จะตัดให้สั้นลงก็ได้

มาที่ผู้ทดสอบสูง 175 เซนติเมตร วางเท้าลงได้เต็ม แถมยังมีระยะเหลือ ให้โยกรถได้สบายๆ แม้ว่าถ้าดูจากตัวเลขความสูงเบาะ 815 มิลลิเมตร จะถือว่าสูงกว่าเพื่อนๆ ในพิกัดเดียวกัน แต่พอนั่งจริงกลับรู้สึกว่าไม่ได้สูงกว่าเพื่อนๆ ในคลาสเลย ดังนั้นใครที่สูงสัก 170 เซน ลงมาหน่อย ผมว่ายังขี่ได้ แบบไม่บัลเล่ต์

ชุดครอบถัง ดีไซน์สปอร์ตสวยงาม มีเส้นสาย แต่ ทว่ามันดูไม่ค่อยกระชับกับผมเท่าไร เพราะโหนกข้างบนทำให้เวลาขี่หมอบศอกหนีบถังดูจะติดมุมโหนกนี้ ไม่ค่อยกระชับท่อนแขน

ส่วนเข่าก็ไปติดเส้นสายด้านล่างอีก อย่างไรก็ดีถ้าคนที่สรีระ ช่วงเข่าสั้นกว่าผม อาจจะไม่พบเจอปัญหานี้

ตัวแฮนด์ ถือว่า ความกว้างพอเหมาะกับรถสปอร์ต คือ ขี่ในเมืองก็พอให้การคอนโทรลได้ ไม่แคบจนตีวงเลี้ยวลำบาก (แต่ถ้าหักสุดช่วงแขนอาจต้องระวังติดถังไปสักนิด)

ความเตี้ยของตัวแฮนด์ ก็สมกับที่เป็นจับโช้ก ใต้แผงคอ ก็หมอบระดับหนึ่ง เกือบๆ Supersport เลยล่ะ ข้อดี คือ รูดช่องรถติดได้สบาย แต่ถ้าขี่ยาวๆ ก็เมื่อยหลังอยู่เหมือนกัน นอกจากนี้ก็มีติดนิดหน่อยตรง ตัวกระจกมองข้าง ถ้าพับได้เลย แบบรถหลายรุ่น เวลาขี่อยู่ จะสะดวกมาก เจ้า GR200R คันนี้จะต้องไขคลายน็อตออกก่อน ซึ่งไม่สะดวกเวลา เจอเข้ากับรถติดๆ

ด้านตำแหน่งวางขา ก็เหมาะสมกับ Sport Entry Bike ที่ใช้งานจริงบนถนน ไม่ถึงกับสูง หรือ ผลักไปด้านหลังมากนัก ตรงนี้ขี่ไกลๆ ก็ไม่เมื่อยขา

ขยับมาลองซ้อนดู ตั้งแต่ทีแรกที่ผมยังไม่ได้ลองนั่น เห็นภาพรถสปอร์ตแบบนี้ เมื่อยก้นแน่ๆ

แต่พอได้นั่งจริง เหย ok ดูดีกว่าที่คิด เบาะหนานุ่ม นั่งนานๆ ไม่เมื่อย ตำแหน่งวางขาก็ไม่ได้ยกชัน นั่งยองๆ เหมือนนั่งส้วมด้วย ตรงนี้ ถือว่าผ่าน เป็นรถ Sport Bike ที่คนซ้อนนั่งสบายมากสุดคันหนึ่งเลย แต่ มันไม่มีมือจับกันตกมาให้ดังนั้น ถ้าเป็นสาวๆ ก็เอวแฟน หรือ สามี ได้เลยจ้า

สรุป รีวิว GPX Demon GR200R ถือได้ว่าเป็นรถสายสปอร์ต ที่เหมาะกับผู้อยากเริ่มต้นมีมอไซค์สปอร์ตสักคัน หรือ ขยับจากรถ พิกัดน้อยๆ ขึ้นมา ในราคาที่ไม่แพงเกินไป และมีสมรรถนะที่ขี่ดีคุ้มค่ากับราคา แถมหน้าตาก็ดูหล่อเหลา เอาการ